นนทบุรี ผู้ปกครองและเด็กนักเรียนวอน 2 สส. และประธานกก. ตร.จังหวัดนนทบุรี ช่วยซ่อมแซมสะพานเหล็กสร้างว่า 30 ปีผุพังเป็นรูโหว่หลังเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

เมื่อวันที่ 5 ม.ค.67 นายสุรพันธ์ ไวยากรณ์ สส.พรรคก้าวไกล เขต 1 จ.นนทบุรี นายนพดล ทิพยชล สส.พรรคก้าวไกล เขต 4 จ.นนทบุรี และนายชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือดร.แก้ว ผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติและเป็นประธานกต.ตร.จังหวัดนนทบุรี เดินทางไปที่สะพานข้ามคลอง ภายในซ.สามัคคี 47 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นสะพานที่สร้างให้คนเดินข้ามและรถจยย.ใช้สัญจรไปมา นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางลัดระหว่างอ.ปากเกร็ดเชื่อมต่อกับอ.เมืองนนทบุรี ที่ชาวบ้านใช้รับส่งบุตรหลานไปโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ทุกเช้าเย็นเป็นประจำหลังได้รับการร้องเรียนขอให้ช่วยเหลือจากชาวบ้านในซอยดังกล่าวว่าสะพานที่สร้างจากเหล็ก เมื่อ 30 ปีที่แล้วได้ชำรุดถูกสนิมกัดกินจนพื้นสะพานเป็นรูโหว่ ราวจับสะพานเกือบขาดจนแทบจะใช้การไม่ได้ อยากให้เข้ามาช่วยเหลือซ่อมแซมให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปรกติเพราะเวลาเช้าเย็นผู้ปกครองมาส่งบุตรหลานหรือนักเรียนไปโรงเรียนมักจะเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง

ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้มีการขอความช่วยเหลือให้มีการซ่อมแซมสะพานดังกล่าวไปที่ทางเทศบาลเมืองนครปากเกร็ดและเทศบาลเมืองนครนนทบุรีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการซ่อมแซมดำเนินการแต่อย่างใดมีเพียงนำแผ่นป้ายประกาศเตือนเขียนข้อความว่า ระวังสะพานชำรุด มาติดไว้เท่านั้น หลังสส.ทั้ง 2 เขตลงพื้นที่ตรวจดูสะพานพบว่าสะพานได้รับความเสียหายค่อนข้างมากตามที่ชาวบ้านร้องขอให้ช่วยเหลือจริง จึงได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ก็ติดปัญหาตรงที่สะพานดังกล่าวเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวทั้ง 2 เขตเทศบาลว่าใครจะเป็นคนดูแลซ่อมแซมทำให้การช่วยเหลือจึงอาจค่อนข้างล่าช้า จึงได้ประสานหน่วยงานภาคเอกชนที่อยากช่วยเหลือสนับสนุนงบประมาณในการเข้ามาช่วยซ่อมแซมสะพานให้กับชาวบ้านในครั้งนี้ โดยหลังจากนี้จะเริ่มดำเนินการซ่อมแซมสะพานทันที่คาดว่าไม่น่าจะเกิด 3 วันสะพานดังกล่าวจะกลับมาใช้งานได้ตามปรกติ 
    
จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่าสะพานเหล็กดังกล่าวสร้างมานานกว่า 30 ปีแล้ว จึงทำให้สะพานถูกสนิมกัดกร่อนไปตามเวลาจนเป็นรูโหว่ ทั้งพื้นสะพานและเสาราวจับสะพานได้รับความเสียหายแทบทั้งหมด ก่อนหน้านี้ก็มักจะเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้งทั้งผู้ปกครองที่มารับส่งนักเรียนและน้องนักเรียนที่ขี่รถจยย.กลับบ้านกันเอง โดยสะพานจุดนี้เป็นทางลัดข้ามระหว่างอ.เมืองกับอ.ปากเกร็ด หากไปใช้ทางถนนใหญ่ตามปรกติจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30 นาที่ในการเดินทางไปโรงเรียนแต่หากข้ามสะพานนี้จะใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที่ก็ถึงโรงเรียน ทำให้ทุกคนเลือกใช้สะพานดังกล่าวมากกว่าใช้ถนนใหญ่ตามปกติและก็ปลอดภัยกว่าเพราะไม่มีรถใหญ่วิ่ง

นายปณิธาน อยู่สมบูรณ์ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นม.5 โรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ กล่าวว่า ตนใช้เส้นทางผ่านสะพานนี้ตั้งแต่ชั้นม. 4 ตอนนี้อยู่ชั้นม.5 ตอนขับรถบนสะพานรู้สึกกลัวว่าจะทะลุลงไปข้างล่าง ถ้าไม่มีสะพานนี้ตนต้องขับรถจยย.วิ่งผ่านไปคลองบางตลาด ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไกลมาก อยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยทำสะพานนี้ให้ปลอดภัย ถ้าเป็นสะพานปูนได้ยิ่งดีจะได้ไม่ต้องซ่อมบ่อย

นายเขมนันท์ คำอิสระ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนนครนนท์วิทยา 5 ทานสัมฤทธิ์ กล่าวว่า ตนเห็นสะพานนี้ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นประถม ตอนนี้อยู่ชั้นม.3 แล้ว ก็รู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัยเพราะสะพานนี้มันชำรุดผุพังมานานแล้ว กว่าจะมีคนมาซ่อมครั้งนึงก็นาน เคยได้ยินว่ามีอุบัติเหตุบ่อยเพราะสะพานชำรุด ถ้าไม่ใช้สะพานนี้เป็นทางลัดต้องอ้อมไปไกลกว่าจะถึงโรงเรียน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาซ่อมแซมให้ด้วยถ้าเป็นไปได้อยากให้ทำเป็นสะพานปูนจะได้สัญจรไปมาปลอดภัยกว่านี้

ด้านนายชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือดร.แก้ว กล่าวว่า หลังได้รับการประสานเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านกรณีนี้จากสส.พื้นที่ได้ลงมาดูก็เห็นว่าสะพานค่อนข้างเก่ามากชำรุดพุพัง มีรถชาวบ้านใช้สะพานข้ามคลองไปมาตลอดรับส่งบุตรหลานนักเรียน ตนเข้าใจทันที่ว่าควรต้องเร่งแก้ไขเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมจะสนับสนุนงบประมาณในการซ่อมแซมสะพานในครั้งนี้อย่างเต็มที่ และต้องรีบดำเนินการอย่างเร่งด่วนให้ชาวบ้านสามารถใช้สะพานได้อย่างสบายใจ