เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 5 ม.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน3.48ล้านล้านบาท วาระแรก ต่อเนื่องเป็นวันที่3 โดยพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ชี้แจงงบฯในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการว่า งบฯกระทรวงศึกษาฯ ที่ได้รับการจัดสรร 5 ปีย้อนหลัง มีแนวโน้มลดลง แต่ในปีนี้รัฐบาลได้ปรับเพิ่มงบฯให้กระทรวงศึกษาฯ ประมาณ0.31เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้งบฯกระทรวงศึกษาฯ ส่วนใหญ่จะไปอยู่ที่งบฯบุคลากร และงบฯอุดหนุน ขณะที่งบฯลงทุน และค่าใช้จ่ายอื่นๆถือมีจำนวนน้อยกว่า

รมว.ศึกษาฯ กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาต่างๆทางด้านศึกษา ทั้ง ปัญหาความเสมอภาคทางการศึกษา , ผลคะแนน PISA ที่ลดลง,ทักษะความสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ ,โรงเรียนขนาดเล็กมีจำนวนมากขึ้น , ครูไม่ครบชั้น ,สวัสดิการของบุคลากร,งบประมาณอาหารกลางวันและอาหารเสริมไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ , เด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษา,โครงการอาชีวะเรียนฟรียังไม่ครอบคลุมและความคาดหวังของสังคมต่อการศึกษาไทย ถือว่าเป็นความท้าทายในปัจจุบัน แต่กระทรวงศึกษาฯ ได้จัดทำงบประมาณตั้งเป้าหมายลดภาระครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และผู้ปกครอง โดยการทำโครงการเรียนดีมีความสุข เรียนได้ทุกเวลา ทำการเรียนการสอนแบบไฮบริด เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา ขณะเดียวกันทางกระทรวงศึกษาฯอาจนำระบบสอบเทียบกลับมาใช้อีกครั้งด้วย

“เชื่อมั่นว่านโยบายด้านการศึกษาที่รัฐบาลชุดนี้ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา จะช่วยสร้างโอกาสความเสมอภาคทางการศึกษาแก่ผู้เรียนทุกช่วงวัย ตั้งใจจะทำให้โครงการมีความสำเร็จตามเป้าหมาย ก็ขอให้สภาผู้แทนราษฎรสนับสนุนร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 เพื่อให้กระทรวงศึกษาฯ สามารถขับเคลื่อนนโยบายให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ครูนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบการศึกษาของประเทศ” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว