วันที่ 5 ม.ค.67 พ.ต.ต.พรศักดิ์ ชุ่มเชย สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจบ้าน ปรังกาสี ต.ท่าขนุน ว่า มีสามีภรรยาสัญชาติมอญถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิต ส่วนภรรยาหนีรอดมาได้ เหตุเกิดในไร่มันสำปะหลัง ที่ 2 สามีภรรยาไปรับจ้างขุดมันสำปะหลัง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.มนตรี  แตงโต ผกก.สภ.ทองผาภูมิ ทราบเรื่อง

จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.ทองผาภูมิ ร่วมกับมูลนิธิกู้ภัยการญจนบุรี จุดรอรับเหตุ อ.ทองผาภูมิ ร่วมกับจุดรอรับเหตุบ้านสหกรณ์นิคม ให้ไปร่วมชันสูตรพลิกศพ พบว่า ที่กลางไร่มันสำปะหลัง หมู่ที่ 5 บ้านหินแหลม ต.ท่าขนุนฯ มีร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชาย 

เบื้องต้นจากการสอบสวนปากคำนางซอนย่า อายุ 59 ปี ภรรยาผู้ตายซึ่งให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตอนเช้าเวลาประมาณ 07.00 น.ตนกับสามีคือผู้ตายชื่อนายวินัย ไม่มีนามสกุล อายุ 57 ปี เป็นคนสัญชาติมอญ ได้รับจ้างจากเถ้าแก่ให้มาขุดมันสำปะหลัง โดยตนและสามีดำลังยืนขุดมันสำปะหลังอยู่นั้น ได้มีช้างป่าเดินข้ามลำห้วยขึ้นมาและตรงเข้าทำร้ายสามี โดยการใช้งวงจับร่างสามีเหวี้ยงไปเหวี้ยงมา ตนจึงรีบวิ่งหนีไปอีกทางแล้วหันกลับมาดู ก็พบว่าช้างได้ส่งเสียงร้องแล้วใช้งวงจับร่างของสามีเหวี้ยงไปเหวี้ยงมาแล้วยกตัวขึ้นฟาดกับพื้นดินซึ่งบางแห่งเป็นโขดหินอย่างคลุ้มคลั่ง จากนั้นก็เดินหลบหนีเข้าป่าไป ตนจึงรีบวิ่งเข้าไปดูก็พบว่า สามีนอนหงายเสียชีวิตแล้ว จึงบอกให้เถ้าแก่รู้ เถ้าแก่จึงโทรแจ้งตำรวจ ไม่รู้ช้างมันเป็นบ้าอะไร อยู่ก็วิ่งเข้ามาหาสามีแล้วก็ทำร้ายสามีจนเสียชีวิต

หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่องราวและแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นแล้ว จึงมอบศพให้มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี นำศพส่งแผนกนิติเวช รพ.ศูนย์ราชบุรี เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าพิสูจน์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนสาเหตุการที่ช้างป่าบุกทำร้ายคนจนเสียชีวิตครั้งนี้น่าจะมาจากช้างคงเข้าใจผิดคิดว่าคนบุกรุกพื้นที่ป่า จึงทำให้ช้างโกธรตรงเข้าทำร้ายคนจนเสียชีวิตดังกล่าว