วันที่ 5 ม.ค.2567 ที่รัฐสภา นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ที่ออกมากล่าวถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า หลักการในเรื่องนี้ประชาชนเข้าใจดีว่า ฝ่ายหนึ่งอภิปรายในสภาฯเพื่อปกป้องประโยชน์และความถูกต้องของประชาชนและประเทศเพราะเป็นหนี้ประชาชน แต่อีกฝ่ายหนึ่งคือนายครูมานิตย์ ประชาชนก็เข้าใจดีว่าต้องออกมาปกป้องประโยชน์ส่วนบุคคลเพราะเป็นหนี้บุญคุณนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายจุรินทร์ อภิปรายจุดสำคัญคือการตรวจสอบงบประมาณทั้งผู้ใช้งบประมาณเพื่อติติงตั้งคำถามรัฐบาลในฐานะผู้ใช้งบประมาณ ได้บริหารโครงการตามวัตถุประสงค์ โปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง 2.8 แสนคนหรือไม่ เพราะประชาชนก็มีข้อสงสัยว่าทำไมรัฐบาลนี้จึงปล่อยให้นักโทษบางคนเข้าคุกทิพย์มาแล้วกว่า 120 วัน แต่ยังไม่เคยติดคุกจริงแม้แต่วันเดียว สาระสำคัญนี้ไปสะกิดต่อมหนี้บุญคุณทันที ก็เข้าใจได้ในความซื่อสัตย์และภักดีต่อนายทักษิณ

นายราเมศ กล่าวว่า นายจุรินทร์ เป็นนักการเมืองที่ทำงานให้กับประชาชนและประเทศมาตลอดชีวิต เวทีไหนจะพูดอะไรในสิ่งที่ทุกต้องเชื่อว่าไม่แพ้ใคร เวทีในสภามีข้อบังคับการประชุมที่ทุกคนต้องยึดหลักอยู่แล้ว การพูดถึงความเท่าเทียม การไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทั้งประเทศในการใช้งบประมาณ แล้วทำไมถึงพูดถึงการเลือกปฏิบัติที่มีการใช้งบประมาณดูแลผู้เสมือนถูกต้องขังเทวดาไม่ได้