เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ม.ค.67 ร.ต.ท.กองทัพ ปรึเดช รองสว.(สอบสวน) สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถเบนซ์เฉี่ยวชนรถยนต์กระบะจนรถกระบะเสียหลักไปชนท้ายรถพ่วงจนเป็นเหตุให้คนขับเสียชีวิตคาที่ และผู้โดยสารบาดเจ็บสองราย คนขับรถเบนซ์ขับหลบหนี เหตุเกิดบริเวณตรงข้ามห้างแมคโครระยอง ถ.สาย36 (ฝั่งขาเข้าเมืองระยอง) ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง จึงประสานตำรวจสายตรวจในบริเวณดังกล่าวสกัดจับ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.ระยอง และ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศลเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถพ่วงบรรทุกโซดาจอดอยู่ริมถนน คนขับรออยู่ในจุดเกิดเหตุ บริเวณท้ายรถพบรถยนต์กระบะชนท้ายจนพังยุบไปจนถึงห้องโดยสาร พบคนขับผู้ชายเสียชีวิตคาพวงมาลัย และ ผู้ได้รับบาดเจ็บผู้หญิงสองรายอาการสาหัส จึงรีบช่วยกันนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.ระยอง ส่วนผู้เสียชีวิตถูกแรงกระแทกเข้าที่ศีรษะจนเลือดท่วมตัวเสียชีวิตคาที่ ก่อนจะนำศพส่งชันสูตร ที่ รพ.ระยอง
สำหรับผู้เสียชีวิตทราบชื่อ คือนายธวัชชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ก่อนเกิดเหตุขับรถมากับมารดาและภรรยา เพื่อไปส่งที่ห้างบิ๊กซี สาขาระยอง ซึ่งเหลือระยะทางเพียง 500 เมตรก็ถึงแล้ว แต่มาเกิดเหตุขึ้นก่อน
ส่วนคนขับรถเบนซ์ได้ขับรถเบนซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ไปจอดอยู่ใต้สะพานต่างระดับ โดยมีพลเมืองดีคุมตัวไว้ และ มีชาวบ้านเตรียมเข้ารุมสกรัม ตำรวจมาห้ามไว้ก่อน โดยคนขับรถเบนซ์ ชื่อนายสุภัคกิจ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ได้ให้การว่า ตนเองทำงานเป็นช่างอยู่ที่ศูนย์เมอซิเดสเบนซ์ระยอง ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถเบนซ์ของลูกค้าที่มาซ่อม เพื่อทดลองรถ ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุเกิดอาการวูบจนรถไปชนกับรถกระบะ แล้วก็ขับเลยมาประมาณ 1 กิโลเมตร จึงจอด ไม่ได้ขับหลบหนี ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและขาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้
ด้านนายสุรศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี คนขับรถพ่วง ให้การว่า ตนเองบรรทุกโซดามาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา กำลังจะไปส่งให้ลูกค้าที่ระยอง ก่อนเกิดเหตุจอดรถริมถนน กำลังจะขับรถออกไป จู่ๆก็ได้ยินเสียงรถเฉี่ยวชนด้านหลัง และพุ่งมาชนท้ายรถของตนเองอย่างแรง จึงรีบลงรถมสดูและรับโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวคนขับรถเบนซ์ และ คนขับรถบรรทุกไปทำการสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย และ ประสานให้ทางญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทราบเรื่อง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองรายอาการยังสาหัส