วันที่ 5 ม.ค.67 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธาน ที่ประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันสุดท้าย โดยเบื้องต้นมีการนัดลงมติในช่วงดึกของวันนี้ เวลา 22.00 น.โดยประมาณ
ทั้งนี้ ภาพรวมช่วงเช้ามีสส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลลุกขึ้นสลับกันอภิปราย จนกระทั่งน.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลุกอภิปรายช่วงเกริ่นนำก่อนเข้าเรื่อง เกิดเหตุปะทะคารมกันเล็กน้อยระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย เนื่องจากน.ส.สุณัฐชาพาดพิงเรื่องในอดีตของพรรค พท. สมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งกรณีการจัดสรรงบประมาณให้แต่ละภาคที่แตกต่างกันตามความนิยมในขณะนั้น อีกทั้งการดำเนินโครงการจำนำข้าวที่ผิดพลาด
น.ส.สุณัฐชา กล่าวตอนหนึ่งว่า เงินภาษีทุกบาททุกสตางค์จะต้องได้รับการจัดสรรอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกที่รักมักที่ซัง เนื่องจากเหตุผลทางการเมืองเหมือนในอดีต ที่คนใต้โดนเลือกปฏิบัติเพียงเพราะเหตุผลไม่นิยมชมชอบพรรครัฐบาลในขณะนั้น ตนมีข้อกังวลในการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลเศรษฐีภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ได้รับฉายาว่าเป็นเซลล์แมนสแตนชิน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ารัฐบาลชุดนี้มีดีเอ็นเอหรือรากเหง้ามาจากพรรคไทยรักไทยที่มีนายใหญ่สายชินเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลในปี 2544 เป็นเจ้าของคำพูดที่ว่าจังหวัดไหนไม่เลือกให้รอการพัฒนาไปก่อน ต่อมาแปรสภาพเป็นพรรคพลังประชาชนและจบด้วยการยุบพรรคที่สุดกลายเป็นพรรค พท. ที่เมินการจัดสรรงบประมาณลงภาคใต้ แต่กลับใช้งบประมาณ 1.39 ล้านล้านบาท ไปกับโครงการจำนำข้าว
ทำให้นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า ขณะนี้เราอยู่ในยุคปีใหม่ ปี 2567 น.ส.สุณัฐชา จะย้อนอะไรกลับไปในอดีตนานขนาดนั้น และที่สำคัญขอให้อยู่ในประเด็นที่พิจารณางบประมาณปี 67
ทำให้นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงว่าผู้อภิปรายอยู่ในประเด็น ไมได้ไปกระทบกระทั่งทูนหัวของบ่าวอะไรเลย ดังนั้นประธานต้องวินิจฉัย ทำให้นายสรวงศ์ ประท้วงกลับขอให้ถอนคำพูด เนื่องจากมันไม่ดี พี่น้องประชาชนดูอยู่ และสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นผลก็ออกมาวันนี้แล้ว
จากนั้นน.ส.สุณัฐชา อภิปรายต่อ พร้อมกล่าวว่า อยากให้ฝ่ายรัฐบาลใจเย็นๆเพราะอย่าลืมว่าหนีอดีตไม่พ้น หนีความจริงไม่ได้ จากนั้นก็ได้อภิปรายไปเรื่อย โดยนำภาพนายเศรษฐา สังสรรค์กับสื่อที่ทำเนียบรัฐบาลกับภาพชาวบ้านหนีน้ำท่วมบนหลังคาบ้านน้ำท่วมที่จังหวัดนราธิวาส สวดให้น้ำลดระดับ แต่นายกฯไม่ได้สนใจ ชาวบ้าน ทำให้นายพิเชษฐ์ ประธานในการประชุมได้ถามเจ้าหน้าที่ว่าได้รับอนุญาตหรือไม่
ทำให้นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วงขอให้ประธานทำหน้าที่เป็นกลาง ไม่ใช่เบรกกลางอากาศ เพราะในการตรวจสไลด์เป็นอำนาจของประธานอยู่แล้ว หากจะมีความผิดพลาดทางเทคนิคควรทำหลังการอภิปราย เพราะประธานจะถูกมองว่าการทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง นายพิเชษฐ์ ชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่ส่งเรื่องมาให้ตรวจสอบ แต่เมื่ออนุญาตแล้วจึงให้อภิปรายต่อ
จากนั้นน.ส.สุณัฐชา กล่าวว่า รูปที่นายกฯสวมใส่เสื้อสีแดงปาร์ตี้ที่ทำเนียบรัฐบาล ไม่มีอะไรน่าจะเสียหาย ไม่มีอะไรที่น่าอาย เพราะการเป็นนักโทษเทวดาอยู่ชั้น 14 ที่น่าอายกว่าเยอะ ทำให้นายศรันย์วุฒิ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า ตั้งแต่ประเด็นเรื่องสไลด์ ไม่ใช่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดพร้อมกัน และนายกฯได้ไปติดตามเรื่องน้ำท่วม ไม่ใช่นายกฯไม่ได้สนใจ ในสิ่งที่ผู้อภิปรายพยายามทำให้สังคมเข้าใจผิด ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย จึงอยากให้อภิปรายเกี่ยวกับงบประมาณ 67 ไม่ต้องมาเสียดสี
ทำให้นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช ประท้วงขอให้ผู้ประท้วงระบุว่าทำผิดข้อไหน ซึ่งผู้ประท้วงได้กล่าวเท็จในสภาแห่งนี้ เพราะผู้อภิปรายชี้ให้เห็นว่านายกฯกำลังมีความสุขที่ทำเนียบเหมือนลิงได้แก้ว แต่ประชาชนถูกน้ำท่วม และที่บอกว่านายกฯลงพื้นที่ ถ้าไปดูภาพให้ไปที่น้ำลึก ไม่ใช่ไปที่น้ำตื้น ก็ขอให้ประธานควบคุม
ทำให้นายกิตติ์ธัญญา วาจาดี สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ประท้วงว่าผู้อภิปรายอภิปรายซ้ำซาก จำเจ และเสียดสี ประธานในที่ประชุมจึงขอให้ผู้อภิปราย พูดให้อยู่ในประเด็น จากนั้นน.ส.สุณัฐชา จึงได้อภิปรายต่อไป โดยเน้นย้ำว่าได้จัดงบฯลงในพื้นที่3จังหวัดภาคใต้ไว้ที่ส่วนใด เพราะนายกฯลางาน 4 วัน ทั้งๆที่เพิ่งทำงานมาเพียง 4 เดือน ทำให้การจัดงบของนายเศรษฐา ไม่ต่างจากยุครัฐบาลนายใหญ่เพื่อไทยเมื่อ10ปีก่อน
“นายเศรษฐา อาจจะลุกขึ้นมาแก้ตัวว่าตัวท่านและผู้นำในอดีตเป็นคนละคนกัน แต่การจัดงบฯในลักษณะนี้ ยิ่งทำให้มั่นใจว่า ถึงแม้จะเป็นคนละคนกัน แต่พฤติกรรมทอดทิ้งคนใต้ ถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาถึงนายกฯที่ชื่อเศรษฐา ผ่านร่างฯงบฯปี 67 ” น.ส.สุณัชชา ระบุ
ทำให้น.ส.กิตติ์ธัญญา ลุกขึ้นประท้วงว่า การที่ยังฝืนข้อบังคับเสียดสี ไม่เข้างบประมาณทำให้เสียเวลา และขอขอบคุณที่ยังจำนายกฯและอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร อยู่ในหัวใจตลอดเวลา แต่นายพิทักษ์เดช ประท้วงอีกครั้งให้ประธานควบคุม บรรยากาศไปด้วยดี นิดๆหน่อยๆดูกันบ้าง และฟังกันไว้เถอะ ไม่เฉียดไม่ฉิว ทูนหัวของบ่าวยังอยู่เหมือนเดิม ยังปลอดภัย จากนั้น น.ส.สุนัฐชา อภิปรายจนจบ
#งบประมาณ67 #ทักษิณ #เพื่อไทย #คนใต้ #ทูนหัวของบ่าว