วันที่ 4 ม.ค.67 ที่บริเวณอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล จังหวัดชัยภูมิได้จัดแถลงข่าวการจัดงานเจ้าพ่อพญาแลจังหวัดชัยภูมิ ประจำปี 2567 ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 12-20 มกราคม 2567 ที่บริเวณอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแลและสนามหน้าศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของพระยาภักดีชุมพล(แล) หรือเจ้าพ่อพญาแล ผู้สร้างเมืองชัยภูมิ และยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องรักษาเมืองชัยภูมิ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและจงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรี ถึงแม้ท่านจะเสียชีวิตเป็นเวลานานแล้วก็ตาม ชาวชัยภูมิยังระลึกถึงและเชื่อว่าบารมีของท่านสามารถปกปักษ์ รักษาและดลบันดาลให้ลูกหลานชาวชัยภูมิ รวมทั้งผู้คนที่มาเคารพสักการะให้ประสบผลสำเร็จตามความปรารถนา ซึ่งในปีนี้ครบรอบ 58 ปี นับตั้งแต่ที่มีการก่อสร้างและเปิดเฉลิมฉลองอนุสาวรีย์พระยาภักดีชุมพล(แล)ครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2510
การแถลงข่าวในครั้งนี้เป็นการยืนยันความพร้อมของทุกภาคส่วนที่จะทำให้การจัดงาน เจ้าพ่อพญาแลปีนี้มีความยิ่งใหญ่ มีกิจกรรมที่หลากหลาย มีความสะดวก เรียบร้อยและปลอดภัย โดยมี นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานในการแถลงข่าว พร้อมด้วย นางศิริพร นาคนิยม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชัยภูมิ พล.ต.ต.สุชาติ คล้ายจันทร์พงษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ นายโดมทอง ดิเรกศิลป์ พัฒนาการจังหวัดชัยภูมิ นาง สาวปทิตตา โชคสุวัฒนสกุล ประธานหอการค้าจังหวัดชัยภูมิ และนางธิดารัตน์ อากรตน ประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิ ร่วมในการแถลงความพร้อมในทุกด้านตั้งแต่ พิธีบวงสรวงเจ้าพ่อพญาแล พิธีถวายช้าง พิธีเปิดงาน กิจกรรมในงานทั้งการออกร้านหรรษากาชาด การออกสลากบำรุงกาชาด การส่งเสริมและจำหน่ายสินค้า OTOP ของฝากของที่ระลึก การจัดประกวดธิดาพญาแล การเดินแบบแฟชั่นผ้าไทยใส่ให้สนุก รวมไปถึงการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน
นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า จุดประสงค์สำคัญของการจัดงานเจ้าพ่อพญาแล นอกเหนือจากเป็นเรื่องของพลังศรัทธาในเจ้าพ่อพญาแลเจ้าเมืองชัยภูมิคนแรกแล้ว ยังเป็นโอกาสที่ประชาชนจะได้พักผ่อนหย่อนใจ หลังเสร็จสิ้นจากการทำไร่ ทำนา มาจับจ่ายใช้สอย ผู้ที่มีสินค้าก็จะนำมาจำหน่ายส่วนเด็กๆเยาวชนมีเวทีแสดงความสามารถและการแสดงศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ส่วนราชการ ก็ได้นำโครงการดี ๆ หรือนวัตกรรมที่ได้ดำเนินการมาเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบในรูปแบบของนิทรรศการหรือกิจกรรมต่าง ๆ ชุมชนท่องเที่ยว สินค้า OTOP ที่จังหวัดได้ไปส่งเสริมไว้ ก็จะได้นำมาจัดแสดงและจำหน่าย ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง