วันที่ 3 ม.ค.67 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ที่ผ่านมามีประชาชนทั่วไปถูกจับคดีเมาแล้วขับ 3,207 คดี ศาลสั่งคุมประพฤติแล้ว 343 คดี อุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 5 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.66-2 ม.ค.67) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,839 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ รวม 1,860 คน ผู้เสียชีวิต รวม 212 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ กาญจนบุรี ส่วนบนถนน พบยังมีปริมาณรถสะสม 10 เส้นทางที่มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพกว่า 500,000 คันจากเมื่อวานนี้เข้ามาแล้ว 600,000 กว่าคัน คาด 6 โมงเย็นวันนี้จะสามารถระบายรถได้ครบตามจำนวนคืนสู่สภาวะปกติ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินทางไปที่สถานีขนส่งจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจจุดคัดกรองเมาแล้วขับบริเวณสถานีขนส่งแห่งใหม่จังหวัดนครราชสีมาและขอนแก่น ตามแผนรณรงค์เมาไม่ขับ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาในช่วงเจ็ดวันอันตรายโดยวันนี้เป็นการตรวจสอบในช่วงเดินทางกลับ โดยจุดแรกได้ไปที่สถานีขนส่งใหม่จังหวัดนครราชสีมา พบว่าในช่วงเวลาดังกล่าวมีรถขนส่งที่เข้ามาสู่ตัวสถานี ประมาณ 50 คันเนื่องจากเป็นสถานีรอยต่อภาคอีสานมุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร  จากนั้นเดินทางไปยังสถานีขนส่งจังหวัดขอนแก่นซึ่งเป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน พบว่ามีรถโดยสารมุ่งหน้าเข้ามาสู่ตัวสถานีประมาณ 20 คันต่อชั่วโมง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวสรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 5 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.66-2 ม.ค.67) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,839 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ รวม 1,860 คน ผู้เสียชีวิต รวม 212 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ กาญจนบุรี (69 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (73 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่กรุงเทพมหานคร (15 ราย) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 17 จังหวัด

จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,792 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,550 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรีและสงขลา (จังหวัดละ 12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (17 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ สงขลา (3 ราย) ขณะที่สถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติวันที่ 1 มกราคม 2567 มีจำนวน 348 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 343 คดี คิดเป็นร้อยละ 98.56 คดีขับเสพ 5 คดี คิดเป็นร้อยละ 1.44  ทำให้สถิติยอดรวมสะสม 4 วัน ที่มีการควบคุมเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2566-1 มกราคม 2567 มีจำนวน 3,278 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 3,207 คดี คดีขับรถประมาท 1 คดี และคดีขับเสพ 70 คดี

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผลการตรวจแอลกอฮอล์ที่สถานีขนส่งตั้งแต่ตำรวจภูธรภาค 1-9 และที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พบว่ามีการเรียกตรวจพนักงานขับรถทั้งสิ้น 8,420 ราย จาก 218 สถานีขนส่ง ไม่พบว่ามีพนักงานขับรถโดยสารคนใดเมาแล้วขับ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ต้องชื่นชมทั้งพนักงานขับรถ ผู้ควบคุม ไปจนถึง บริษัทขนส่งที่เอาใจใส่กวดขันอย่างเข้มงวด ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือในการรณรงค์เมาไม่ขับ จนทำให้สถิติอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุลดลง เป็นที่น่าพอใจ และมั่นใจว่าหากรณรงค์เข้มข้นในช่วงทุกเทศกาลก็จะทำให้จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตรวมถึงพิการจากอุบัติเหตุลดลง และหมดไปอย่างแน่นอน ส่วนคนที่ดื่มสุราแล้วมาขับขี่ยวดยานพาหนะ ก็มีบทลงโทษทางกฎหมายที่รุนแรงและเอาจริงเอาจังโดยล่าสุดศาลได้สั่งคุมประพฤติแล้วกว่า 300 คดีจากการจับกุมทั้งหมดกว่า 3,000 คดี

สำหรับ สถานการณ์ การจราจรจนถึงขณะนี้ ยังมีปริมาณรถสะสมในทุกเส้นทางโดยเฉพาะสายเหนือ สายอีสาน และสายใต้ซึ่งจนถึงขณะนี้กองบังคับการตำรวจทางหลวง แจ้งว่ายังมีปริมาณรถสะสมตามช่องทางต่างๆทั้ง 10 ช่องทางที่มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานครประมาณ 5.7 แสนคัน จากเมื่อวานนี้อยู่ที่ 6.3 แสนคัน แต่ก็ยังสูงกว่าในช่วงเวลาปกติที่มีอยู่เพียง 400,000 กว่าคันต่อวัน ซึ่งในบางช่องทางยังคงมีการเปิดช่องทางพิเศษให้รถวิ่งโดยเฉพาะที่จังหวัดขอนแก่น และคาดว่ารถทั้งหมดจะเดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานครในช่วงเวลา 18:00 น. วันนี้ และจะเข้าสู่ภาวะปกติในลำดับต่อไป