เสียงปืนดังขึ้นสนั่นที่บ้านนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก กลางเมืองนครปฐม ท่ามกลางนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ภายในบ้านจำนวนหลายนาย กลิ่นคาวเลือดของผู้พิทักษ์สันติราษฎร ไหลลงสู่ธรณีส่งกลิ่นคละคลุ้งทั่วหมู่บ้าน  ทำเอานายตำรวจที่มาร่วมงานตกตะลึง ยังไม่หายเมากับเสียงปืนที่ดังขึ้น แต่ภายในบริเวณโต๊ะอาหารพบร่างสารวัตรทางหลวงตงฉิน ถูกยิงล้มกลิ้งลงกลางธรณี ภายในงาน และยังรองผู้กำกับการตำรวจทางหลวงอีก 1 ราย ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ. 

คดียังเป็นที่กล่าวขานของชาวบ้าน ท่ามกลางเสียงสาปแช่งและผู้เก็บความแค้นแทนเพื่อนร่วมรุ่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่หนีหายไปจากความทรงจำของชาวจังหวัดนครปฐม ว่าเกิดอะไรขึ้นบนโต๊ะอาหารในงานเลี้ยงวันนั้น ที่สำคัญตำรวจแห่กันไปทำอะไรที่นั้น  มีทั้งชั้นสัญญาบัตร และชั้นประทวน ร่วมนั่งตั้งก๊ง และดนตรีบรรเลงขับร้อง สร้างความสนุกสนาน และการสนทนาที่เข้าหูและไม่เข้าประสาทหู ก่อนเกิดเหตุที่ตกลงไม่ลงตัว จนเกิดการกระหน่ำยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตร แบงก์  สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. สังเวชชีวิตและบาดเจ็บ บางรายถูกดำเนินคดีหมดอนาคตจบลงในวันเดียวกัน บางรายถูกออกราชการ สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้กับครอบครัวและวงการตำรวจไทย กลายเป็นปัญหาสังคมบนความทุจริตหรือสุจริต ด้วยเหตุผลใด ที่หลายๆในสังคมและส่วนรวมยังรอคำตอบของความจริง

จากกรณี พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตร แบงก์ นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 51 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 67 สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ถูกยิงเสียชีวิต หลังจากกำนันคนดังในพื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม นัดไปรับประทานอาหารและพูดคุยกันที่บ้านพัก ลำดับเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.66 พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 บก.2 บก.ทล. ถูกยิงเสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล.ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ  ต่อมา เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2566พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล. ยิงตัวเองเสียชีวิต  คดีนี้พนักงานสอบสวนได้ตั้งประเด็น  1.คดียิงตำรวจ 2.คดีปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต (มาตรา 157) 3.คดีการทำธุรกิจของบริษัทกำนันนก (ฮั้วประมูล) โดยดำเนินคดี คดียิงตำรวจ โดยแจ้งข้อหาและดำเนินคดี 7 คน คือ 1.นายธนัญชัย หมั่นมาก (หน่อง) มือปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร เสียชีวิต ต่อมาถูกวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิต 

2.นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ถูกดำเนินคดีใน 5 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในเมืองหรือที่ชุมชน 3.นายสนทยา (เก่ง) คนงานบ้านกำนันนก หลังเกิดเหตุนำปืนที่ใช้ยิง พ.ต.ต.ศิวกร ไปฝังที่ริมบึง 4.นายฐิตินันท์ (โบ๊ท) เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางราชบุรี หลังเกิดเหตุนำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปทิ้งที่คลองหลังวัดตาก้อง ถูกแจ้งข้อหาทำลายพยานหลักฐาน ตำรวจแจ้งข้อหา แม่บ้าน 3 คน ฐานทำลายพยานหลักฐาน เนื่องจากช่วยกันทำความสะอาดที่เกิดเหตุเพื่อทำลายหลักฐาน  สำหรับคดีอาวุธปืน มีผู้ถูกดำเนินคดี 3 คน ในข้อหาร่วมกันครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ คือ 1.นายประสงค์ ไทรไกรกระ รปภ.บริษัทของกำนันนก 2.นายชัชวาล ไทรไกรกระ (เด้ง) นำปืนมาส่งให้นายต๋องที่หน้าบริษัท

3.นายชัชวาลย์ ก้องภัคดีสุข (ต๋อง) นำปืนจากนายเด้งเข้าไปในงาน และ คดีทุจริต ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต (มาตรา 157) มีตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ถูกดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อช่วยไม่ให้ผู้อื่นได้รับโทษ, ร่วมกันทำลาย ซ่อนเร้น, ร่วมกันช่วยเหลือผู้กระทำความผิด จำนวน 6 คน คือ 1.พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ,2.ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ แตงอำไพ รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ,3.ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร รองสว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.,4.ร.ต.ท.ประสาร รอดผล รองสว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.5.ร.ต.ต.สรรเสริญ  ศรีสวัสดิ์ รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.,6.ร.ต.ต.นิมิตร สลิดกุล รอง สว.จร.สภ.เมืองนครปฐม และยังมี ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ยิง พ.ต.ต.ศิวกร จะถูกดำเนินคดีเพิ่มอีก 14 คน คือ1.พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม,2.พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท,3.ร.ต.อ.ประสมมาศ แสงสุขมี รอง สว.จร.สภ.กำแพงแสน 4.ร.ต.อ.นุชิต บรรณชัย รอง สว.ปทส.5 ,

และ 5.ร.ต.อ.จตุรวิทย์ ชวาลเกียรติธนา รอง สวป.สภ.เมืองนครปฐม,6.ร.ต.อ.ศิริชัย รูปสวย สังกัด บก.ป.7.ร.ต.ท.มนัส จันทร์มีทรัพย์ รอง สว.จร.สภ. นครชัยศรี จ.นครปฐม 8.ด.ต.ถนอม ศักดิ์มีศรี  ผบ.หมู่ สภ.สามควายเผือก,9.จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา ผบ.หมู่ ส.ทล.กก.2,10.ด.ต.สมโชค บัวไชย บก.สส.ภาค 7,11.จ.ส.ต.อภิรักษ์ โรจน์พวง ผบ.หมู่ กก.5 บก.ปคม.,12.ส.ต.ท.สุทธิกานต์ แซ่ล้อ ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม,13.ส.ต.ต.ธนทัต ท่าน้ำตื้น ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม,14.ส.ต.ต.สรรเสริญ ศรีอุบล ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม อีกคดีที่เป็นที่จับตามองก็คือ การทำธุรกิจของกำนันนก ที่ถูกจับตามองว่า “ฮั้วประมูล” หรือไม่ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ในบางโครงการ มีผู้มาซื้อซองประกวดราคาจำนวนมาก แต่เมื่อถึงเวลายื่นประมูลกลับมีผู้ยื่นแข่งเพียงไม่กี่ราย

หลังเกิดเหตุ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ขานรับคำสั่ง ผบ.ตร.ลงมาอำนวยการดูแลของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมประชุมร่วมกับสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.), สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), กรมสรรพากร และกรมบัญชีกลาง คดีนี้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและสังคมเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเดือดร้อนไปตามๆ กัน 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ย.66  อัยการสูงสุดสรุปสำนวนสั่งฟ้องและไม่ฟ้องคดีกำนันนก สรุปสำนวนสั่งฟ้องและไม่ฟ้องคดีกำนันนก สำกรณีสั่งไม่ฟ้อง 1. ร.ต.ท.นิมิต สลิดกุล ผู้ต้องหาที่ 3 2. สั่งไม่ฟ้อง ร.ต.ท.ณรงศักดิ์ แตงอำไพ,3. สั่งไม่ฟ้อง ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร,4. สั่งไม่ฟ้อง พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร, พ.ต.ท.ภทร วรญาวิสุทธิ์, พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจกุล  และ ร.ต.ท. มนัต จันทร์มีทรัพย์  และสั่งฟ้อง  5.พ.ต.ต เกียรติศักดิ์ สม  ร.ต.ต. ประสาร รอดผล, ร.ต.ท. สรรเสริญ ศรีสวัสดิ์ ร.ต.ท.นิมิต สลิดกุล  ร.ต.ท. ณรงศักดิ์ แตงอำไพ  จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา, ร.ต.อ. จตุรวิทย์ ชวาลเกียรติธนา  ร.ต.อ. ประสมมาศ แสงสุขดี , ส.ต.ต.สุทธิกานต์ แซ่ฮ้อ , ส.ต.ต.สรรเสริญ ศรีอุบล, ส.ต.ต. ธนทัต ท่าน้ำตื้น, ร.ต.อ.นุชิต บรรณชัย, ด.ต.ถนอมศักดิ์ มีศรี จ.ส.ต.อภิรักษ์ โรจน์พวง, ร.ต.อ ศิริชัย รูปสวย ร.ต.ท. สมโชค บัวไชย  และนายสนธยา สุดแน่น, นายฐิตินนท์ อินทร์ต้นวงศ์, นายนิวัฒน์ชัย ปั้นดา, นายกฤษฎา เหล่งดอนไพร, นายชาตรี เขียวทับ และนายประวีณ จันทร์คล้าย นายอาทิตย์ เก้าลิ้ม