วันที่ 2 ม.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเพจ เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า...
พรบ.งบฯ โหมโรงกันจนน่ารำคาญ
ผมเห็นเกิดวิวาทะก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณา พรบ.งบประมาณรายจ่าย ปี 2567 ระหว่างพรรคฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลแล้ว รู้สึกน่าเบื่อหน่าย น่ารำคาญ ที่มีการโหมโรงในลักษณะ ตอบโต้กันไปมา ตีกันกล่าวหา ดิสเครดิตซึ่งกันและกัน
ในความเป็นจริง การประชุมสภาเพื่อพิจารณาพิจารณาพรบ.งบประมาณประจำปี เป็นเรื่องปกติที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใช้สิทธิ์อภิปรายท้วงติง การจัดงบประมาณของรัฐบาล ไม่มีอะไรเกินเลยไปถึงขั้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเชื่อว่า ส.ส.ทุกคน ต่างก็รู้หน้าที่ของตัวเองดี แต่ดูเหมือนจะมี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ออกมาตีโพยตีพาย ดักคอฝ่ายค้าน เรื่องขอบเขตการอภิปราย พรบ.งบประมาณ ในลักษณะตีตนก่อนไข้ ห้ามอภิปรายนอกกรอบ ห้ามแตะพาดพิงนายใหญ่ กลัวจะฉวยโอกาสอภิปรายไม่ไว้วางใจบ้าง ฯลฯ แต่เข้าใจว่า คนเหล่านี้บางคนเพิ่งเป็นส.ส.ครั้งแรก ไม่รู้จักบทบาทหน้าที่ของส.ส.ดีพอ และคงไม่เข้าใจว่า สภามีข้อบังคับสำหรับควบคุมการประชุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
การอภิปรายพิจารณา พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีในวาระแรก ก็เป็นการอภิปรายเปิดกว้าง สามารถที่จะวิพากษ์วิจารณ์การจัดงบประมาณของรัฐบาลได้อย่างเต็มที่ ถ้าหากมีอะไรเกินเลยล้ำเส้น นอกประเด็น ประธานที่ประชุมสามารถควบคุมการอภิปรายให้อยู่ในประเด็นได้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลอย่าตื่นตระหนกจนเกินเหตุ แสดงออกให้สังคมเห็นว่า เป็นเหมือนวัวสันหลังหวะ หรือต้องการทำหน้าที่เป็นองครักษ์ ให้เข้าตานายกรัฐมนตรี หรือเพื่อต้องการให้เป็นประเด็นข่าว
ซึ่งการชี้แจงข้อซักถามของส.ส.เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ที่จะต้องอธิบายชี้แจงแผนงาน การจัดงบประมาณ ตามรายละเอียดใน พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีอยู่แล้ว
ผมเชื่อว่า ถ้าทุกคนทำรู้จักหน้าที่ และทำหน้าที่ตัวเองให้สมบูรณ์แล้ว ปัญหาการอภิปราย พรบ.งบประมาณฯ จะไม่มี การประชุมจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ผมเคยเป็นส.ส.มาร่วม 20 ปี ไม่เคยเห็นการประชุมเพื่อพิจารณาพรบ.งบประมาณฯ เป็นประเด็นที่น่ากลัว น่าตกใจเหมือนกันยุคนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะนายกรัฐมนตรีผู้นำรัฐบาล ไม่เคยเป็นส.ส.มาก่อน เป็นนักการเมืองมือใหม่ จึงทำให้ลิ่วล้อเกิดอาการจิตตก ตกใจกลัวแทนนาย
ผมในฐานะผู้ชม รู้สึกรำคาญ และเบื่อหน่าย กับการให้ข่าวของ ส.ส.พวกนี้จริงๆ