นายกฯ รอกฤษฎีกาส่งเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตกลับมาให้รัฐบาล คาดได้รับสัปดาห์หน้า ก้าวก่ายไม่ได้ เผย 2 ม.ค. ยังไม่นอนค้างคืนทำเนียบฯ อ้างดูฤกษ์ดีค้างได้ตั้งแต่ 7 ม.ค. แต่ต้องเลื่อนเพราะติดภารกิจไปจ.ร้อยเอ็ด ส่วนถกงบฯ67 ไร้ปัญหา พร้อมชี้แจง ลั่นไม่จำเป็นต้องมีองครักษ์พิทักษ์ เชื่อไม่มีเรื่องตบทรัพย์ในสภา ด้านแพทองธาร"ให้จับตามีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในปีนี้แน่นอน
ที่ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ด้านตะวันออก ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 1 ม.ค.67 เวลา 10.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2567 โดยมี นางพักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรีและภริยา เข้าร่วมพิธี
โดยนายเศรษฐาและภริยา ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ดังนี้ชุดที่ 1 นายกรัฐมนตรี พร้อมรองนายกรัฐมนตรี ในนาม นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ชุดที่ 2 นายกรัฐมนตรีและภริยา ในนาม นายกรัฐมนตรีและภริยา และชุดที่ 3 ภริยานายกรัฐมนตรี พร้อมภริยารองนายกรัฐมนตรี ในนาม คณะคู่สมรสคณะรัฐมนตรี
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและภริยา ลงนามถวายพระพร ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสร็จพิธี
ต่อมา ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการนอนพักค้างคืนที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ฤกษ์ให้นอนได้ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. เป็นต้นไป แต่ครั้งแรกอาจจะมีฟันหลอบ้าง หมายความว่าบางวันอาจจะไม่ได้ก็ต้องดูกันนิดหนึ่ง และในวันที่ 7 ม.ค.นอนไม่ได้ เพราะในวันที่ 8 ม.ค. มีภารกิจลงพื้นที่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อถามว่า ในวันที่ 2 ม.ค.จะยังไม่นอนค้างคืนที่ทำเนียบรัฐบาลใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เริ่มนอนค้างคืนได้ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. ฤกษ์คือวันที่ 7 ม.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายกฯ เคยให้สัมภาษณ์ว่าอาจจะนอนทำเนียบฯ วันที่ 2 ม.ค. แต่อาจจะต้องดูฤกษ์ก่อน
นายเศรษฐา ยังให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าภายหลังรัฐบาลส่งหนังสือไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ดูรายละเอียดในเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ยัง เปิดทำการสัปดาห์หน้าจึงจะทราบ และคงไม่มีการเร่งรัดอะไรไป เพราะเร่งรัดไม่ได้เรื่องพวกนี้ ก้าวก่ายไม่ได้
สำหรับการเตรียมความพร้อมในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ระหว่างวันที่ 3-5 ม.ค.นี้ ว่า ได้มีการพูดคุยกันและประชุมกันไปแล้วตั้งแต่ก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ และในช่วงปีใหม่ได้เจอกับรัฐมนตรีบางท่านก็ได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ที่เสนอ ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรก็มีหน้าที่ตรวจสอบ และรัฐบาลมีหน้าที่ในการอธิบายก็ทำไปตามหน้าที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่าเวทีพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 67 จะกลายเป็นเวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ กล่าวว่า เชื่อว่าท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนรู้จักหน้าที่ของตัวเอง วันนี้เป็นการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของงบประมาณ เราก็ต้องพูดกันถึงเรื่องงบประมาณ แต่ถ้ามีข้อกังขาอะไรที่ไม่ชัดเจน เราก็จะพยายามชี้แจงอย่างเต็มที่ เพื่อชี้แจงให้ท่านสมาชิกสภาฯ ทุกท่านผ่านไปยังประชาชนทุกคน เมื่อถามต่อว่า จะชี้แจงทันทีหรือจะรอให้จบเป็นเรื่องๆ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ต้องไปรอดูที่สภาอีกที เข้าใจว่าตนจะเป็นผู้พูดเปิด และอ่านให้ฟังว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้มีอะไรบ้าง ซึ่งเข้าใจว่าจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เมื่อถามย้ำว่า ในส่วนของนายกฯ มีความพร้อมแค่ไหน นายเศรษฐา ตอบว่า เตรียมตัวพร้อมครับ อย่างไรก็พร้อม
เมื่อถามอีกว่า ในระหว่างการพิจารณาจะมีการกำชับในที่ประชุมหรือไม่ว่าจะไม่ให้เกิดการตบทรัพย์เหมือนอย่างที่เคยเกิดเกิดขึ้นที่ผ่านมา นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่เคยทราบในเรื่องนี้ แต่ทราบว่าทุกท่านเองก็มีศักดิ์ศรี และเชื่อว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครรับได้ ทุกท่านรู้หน้าที่ของตัวเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องกำชับ เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีองครักษ์พิทักษ์ตัวนายกฯหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า คงไม่มี ไม่มี ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเองและชี้แจงกันไป เพราะสภาฯเองก็มีหน้าที่ในการสอบถาม ด้วยความเป็นห่วงหน้าที่ของเราในฐานะผู้บริหารก็ต้องชี้แจง
นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่2 ม.ค. ได้นัดหารือพรรคร่วมรัฐบาล เวลา 13.00 น. เพื่อหารือในการประชุมสภาฯ วันที่ 3-5 ม.ค. เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 รวมถึงเรื่องทั่วๆ ไป ทั้งนี้ฝั่งรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมในการอภิปราย จากเวลาที่ได้รับรวม 20 ชั่วโมง ได้แบ่งให้คณะรัฐมนตรี 5 ชั่วโมง และ อีก 15 ชั่วโมง ได้จัดสรรให้พรรคร่วมรัฐบาลในกรอบกว้างๆ แล้วเพื่อให้แต่ละพรรคได้จัดส.ส.ที่จะอภิปราย
ผู้สื่อข่าวถามถึงการตั้งทีมเพื่อตั้งรับการอภิปรายฯ ที่คาดว่าพรรคฝ่ายค้านตั้งประเด็นโจมตีว่าเป็นการจัดงบฯที่ไม่แก้ปัญหาวิกฤต นายศรัณย์ กล่าวว่า ไม่ถือว่าเป็นการตั้งรับ เพราะทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านสามารถอภิปรายถึงความเหมาะสมของการจัดสรรงบฯ ได้ ไม่ใช่ว่าอยู่ฝ่ายรัฐบาลต้องสนับสนุนหรือว่าเห็นดีด้วย และตนเชื่อว่าส.ส.ในพื้นที่จะเห็นถึงรายละเอียดและความเหมาะสมในการจัดงบฯ เพื่อให้การจัดงบประมาณออกมาดีที่สุด
สำหรับการจัดงบประมาณปี67 ถือว่าทำมาก่อนที่จะมีรัฐบาลปัจจุบัน และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง เข้ามาบริหารประเทศ ดังนั้นถือว่าเป็นงบฯ ที่รัฐบาลนี้ไม่ได้กำหนด และมีข้อจำกัด ดังนั้นในการอภิปรายรายละเอียดของส.ส. จึงเป็นผู้ที่จะเสนอแนะเพื่อให้ร่างกฎหมายงบฯ ออกมาดีที่สุด
เมื่อถามถึงการจัดสรรงบประมาณที่เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลปัจจุบัน เช่น ซอฟท์พาวเวอร์ที่ถูกมองว่าเทกระจาด หวังผลไม่ได้ นายศรัณย์ กล่าวว่า การจัดสรรงบฯ ส่วนดังกล่าวต้องทำในแบบกว้าง และจัดสรรในหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงวัฒนธรรม, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพราะทุกหน่วยงานต้องการสนับสนุน และผลักดันให้เกิดความเป็นไปได้ ดังนั้นการพิจารณารายละเอียดต้องเสนอแนะส่วนต่างๆ เพื่อปรับปรุงให้งบประมาณออกมาดีที่สุด