“ตร. จับมือ มหาดไทย กทม. และ ภาคีเครือข่าย เปิดโครงการ "ขับเคลื่อนจราจรไทยไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน Traffic Forward รวดเร็ว ปลอดภัย เข้าใจ ไปด้วยกัน"วาง F4 เป็นยุทธศาสตร์หลัก หวังปรับใช้ช่วงปีใหม่ ลดอุบัติเหตุ เจ็บ ตาย”อำนาจที่ปราศจากเหตุผล คือ อำนาจของคนพาล อำนาจที่ปราศจากความเมตตา คือ อำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย...

ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมาที่ห้องประชุมแจ้งยอดสุข อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ "บิ๊กต่อ"พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ควง "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  หักพาล  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดโครงการ"ขับเคลื่อนจราจรไทยไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน Traffic Forward รวดเร็ว ปลอดภัย เข้าใจ ไปด้วยกัน  โดยได้รับเกียรติจาก นายอนุทิน ซาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมด้วยเปิดโครงการขับเคลื่อนจราจรไทยไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน"Traffic Forward รวดเร็ว ปลอดภัย เข้าใจ ไปด้วยกัน "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ปัญหาด้านการจราจรเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต และความปลอดภัยของประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งปัญหาสำคัญคืออุบัติเหตุ ด้านการจราจรหากพิจารณาจากสถิติการเสียชีวิตของประชาชนในปี 2566 พบว่ามีประชาชนเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนน จำนวน 13,196 ราย จากปัญหา อาชญากรรม 1,778 ราย จะเห็นว่าการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางท้องถนนมากกว่าถึง7.4 เท่า ทำให้ประทศไทยต้องสูญเสียทรัพยากรบุคคลที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ เป็นจำนวนมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาด้านการจราจรอย่างจริงจัง จึงได้จัดทำโครงการ "ขับเคลื่อนจราจรไทยไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน Traffic Forward รวดเร็ว ปลอดภัย เข้าใจ ไปด้วยกัน " โดยได้รับความร่วมมือกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครื่อข่าย เพื่อรณรงค์และเสริมสร้างจิตสำนึกด้านการจราจรให้แก่ประชาชน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 

โดยมีการขับเคลื่อนงานจราจร 4 ด้าน ได้แก่ 1. "Forward Faster" ขับเคลื่อนด้านอำนวยการจราจรบนถนนอย่างรวดเร็ว โดยมีการนำ โดรน (Drone) บินตรวจสภาพการจราจร และส่งภาพไปยังศูนย์ควบคุมการจราจรเพื่อรายงานสภาพการจราจรและสั่งการแก้ไขปัญหาได้ทันที โดยนำร่องในจุดที่มีการจราจรหนาแน่น ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจะขยายผลให้ครอบคลุมทุกจังหวัดต่อไป 2."Forward Safer" ขับเคลื่อนด้านความปลอดภัยบนท้องถนน โดยอ้างอิง ผลการสำรวจจากนิด้าโพล เกี่ยวกับความเห็นของประชาชนว่าข้อหาใดที่ประชาชนต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันมากที่สุด มาประกอบความเห็นทางฝ่ายวิชาการของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และข้อมูลจากศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ในการกำหนดเป็น 10 ข้อหาในการบังคับใช้กฎหมายเร่งด่วน Quick Win เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนบนท้องถนน ซึ่งจะมีการประเมินผลทุกไตรมาส 3. "Forward Attitude" ขับเคลื่อนด้านทัศนคติตำรวจ และประชาชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยการปรับแนวคิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามแนวคิด "เตือนก่อนปรับและปรับแบบเป็นขั้นบันใด" ผ่านช่องทาง Line Official ชื่อ"ขับดี" ซึ่งเป็นระบบบันทึกและตรวจสอบประวัติของผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนกฎจราจรใน 10 ข้อหาเร่งด่วน และเป็นความผิดซึ่งหน้า วิธีการนี้ประชาชนสามารถตรวจสอบการกระทำผิดด้านการจราจรของตนเองได้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถตรวจสอบประชาชนได้ว่าสมควรถูกตักเตือนหรือจะปรับในอัตราเท่าไร 4. "Forward Participation" ขับเคลื่อนด้านการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย เพื่อร่วมก้าวไปด้วยกันอย่างยั่งยืน โดยให้ประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับงานจราจรผ่านแอปพลิเคชั่น "Traffy Fondue" หรือ Facebook Page : "อาสาตาจราจร" ในการส่งภาพหรือคลิปข้อมูลอุบัติเหตุ การฝ่าฝืนกฎหมายจราจร และเจ้าหน้าที่รัฐที่ประพฤติมิชอบ

นอกจากนี้ ในวันนี้ยังมีการอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทั่วประเทศในหัวข้อ "การบังคับใช้กฎหมายเพื่อความปลอดภัยทางถนน" และการมอบรางวัล"โครงการอาสาตาจราจร" และรางวัล "คลิปวิดีโอสั้น การสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน"ที่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ...ปีใหม่นี้ขอให้ท่านมีความสุข สุขสวัสดิ์ เดินทางปลอดภัยภัยแคล้วคลาดปราศจากทุกข์ สุขภาพดีเป็นมิ่งขวัญ ปลอดโรคปลอดภัยในทุกวัน สุขสมหวังดั่งใจตลอดปี 2567