ศปถ.สรุป 7วันอันตราย วันที่ 2 รวมเสียชีวิต 71 คน บาดเจ็บ 739 คน  ตายเป็นศูนย์มี 37 จังหวัด ขับรถเร็ว สาเหตุหลัก  สมุทรปราการนำโด่งอันดับหนึ่งคุมประพฤติคดีเมาขับ ส่วน บขส. เตรียมแผนรองรับการเดินทางกลับเข้า กทม. 1-3 ม.ค. คาดไม่ต่ำกว่าวันละ 6 หมื่นคน

     เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2566 พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานแถลงข่าวศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2567 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2567 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 30 ธ.ค.2566 ซึ่งเป็นวันที่สองของการรณรงค์ ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุเกิดอุบัติเหตุ 385 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 404 คน ผู้เสียชีวิต 37 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 34.55 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 22.60 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 85.29 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรงร้อยละ 80.52 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 38.44 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 35.32 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 18.01  19.00 น. ร้อยละ 9.61 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 20 - 29 ปี ร้อยละ 20.63 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,774 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,408 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ตาก (18 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ตาก (18 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่กรุงเทพมหานคร (4 ราย)

     สรุป อุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 2 วันของการรณรงค์ (29  30 ธ.ค.66) เกิดอุบัติเหตุรวม 724 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ รวม 739 คน ผู้เสียชีวิต รวม 71 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 37 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ ขอนแก่น(31 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น และตาก (จังหวัดละ 30 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และปราจีนบุรี (จังหวัดละ 5 ราย)
 

   ด้าน นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติในวันที่สองของการควบคุมเข้มงวด (30 ธันวาคม 2566) มีคดีทั้งสิ้น 102 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 102 คดี เนื่องจากศาลส่วนใหญ่ปิดทำการ ทำให้ยอดสะสมสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติ 2 วันที่มีการควบคุมเข้มงวด ระหว่างวันที่ 29-30 ธ.ค. 66 มีจำนวนทั้งสิ้น 644 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 617 คดี คิดเป็นร้อยละ 95.81 คดีขับเสพ 26 คดี คิดเป็นร้อยละ 4.04 คดีขับรถประมาท 1 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.16
   

 จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ สมุทรปราการ เป็นอันดับหนึ่ง 78 คดี รองลงมา กรุงเทพมหานคร 69 คดี และ เชียงใหม่ 58 คดี เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีที่เข้าสู่งานคุมประพฤติ พบว่า คดีขับรถในขณะเมาสุรา ปีที่แล้ว 30 ธันวาคม พ.ศ. 2565 จำนวน 1,433 คดี และปีนี้ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2566 จำนวน 102 คดี ลดลง จำนวน 1,331 คดี คิดเป็นร้อยละ 92.88
   

 อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันเดียวกันนี้ สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ ได้ร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ บริเวณจุดบริการประชาชน ด่านชุมชน และด่านตรวจค้น จำนวน 193จุด โดยมีอาสาสมัครคุมประพฤติ ภาคีเครือข่าย ศูนย์เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ประชาชนและผู้ถูกคุมความประพฤติ เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 5,014 คน นอกจากนี้ ยังฝากความห่วงใยแก่ประชาชนในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยเฉพาะการสังสรรค์ ไม่ควรขับรถขณะเมาสุรา ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง สวมหมวกนิรภัย เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน
 

   ทางด้าน บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) แจ้งว่า บขส.ได้เตรียมแผนอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางขาเข้าของประชาชน ในช่วงวันที่ 1 - 3  มกราคม 2567 ซึ่งคาดว่าจะมีการทยอยเดินทางกลับหลังฉลองวันหยุดในช่วงเทศกาลปีใหม่  เฉลี่ยวันละ 60,000 คน ใช้รถโดยสารประมาณ 3,800 เที่ยว ทั้งนี้ บขส.ได้กำชับให้นายสถานีเดินรถทั่วประเทศ ดูแลความปลอดภัย ตรวจความพร้อมของรถโดยสาร พนักงานขับรถของ บขส. รถร่วมฯ และขอให้ช่วยกันอำนวยความสะดวกประชาชนให้ได้รับบริการที่มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม
   

 ทั้งนี้ผู้โดยสารที่ประสงค์จองตั๋วโดยสารล่วงหน้า สามารถจองผ่านช่องทางต่าง ๆ อาทิ Application : E-ticket  , Website บขส. : https://tcl99web.transport.co.th , ตัวแทนจำหน่ายตั๋ว และช่องจำหน่ายตั๋วของ บขส. ทั่วประเทศ 
   

 นอกจากนี้กระทรวงคมนาคม ได้มอบของขวัญปีใหม่ ตามนโยบายไปก่อน-กลับทีหลัง ให้ผู้โดยสารรถ บขส. ที่จองตั๋ว ผ่านช่องทางออนไลน์ Application E-Ticket และ Website : http://transport.co.th/ เดินทางในระหว่างวันที่ 4-8 มกราคม 2567 ได้รับส่วนลด 20 % (เฉพาะค่าโดยสารไม่รวมค่าธรรมเนียม) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ช่องจำหน่ายตั๋ว หรือโทร บขส. Call Center 1490 ตลอด 24 ชั่วโมง
 

   โดย บขส. ได้ร่วมมือกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดการเดินทางเชื่อมต่อ ภายใต้โครงการ "Quick Win การคมนาคม แบบไร้รอยต่อ" โดยอำนวยความสะดวกส่งผู้โดยสาร รถ บขส. ที่จุดจอดรถ (ขาเข้า) สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อเชื่อมต่อรถไฟ รถไฟฟ้า และส่งผู้โดยสารที่ขาเข้า สถานีขนส่งหมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร 6 เพื่อเดินทางเชื่อมต่อรถเมล์ ขสมก. จำนวน 12 เส้นทาง หรือใช้บริการรถแท็กซี่ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว  และถือเป็นการเพิ่มทางเลือกในการเดินทางเชื่อมต่อให้กับประชาชน 
   

 อย่างไรก็ดีในส่วนของปัญหาวินรับจ้างไม่ถูกกฎหมายที่มาก่อกวนผู้โดยสารขณะลงจากรถโดยสารบริเวณขาเข้า สถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 นั้น ทางกระทรวงคมนาคมมีความห่วงใยผู้ใช้บริการ จึงได้ให้ บขส. ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก และ สน.บางซื่อ ร่วมมือกันแก้ปัญหา โดยการจัดเจ้าหน้าที่ บขส. เจ้าหน้าที่ตรวจการ และตำรวจ ประจำพื้นที่ หากพบมีการกระทำผิดจะดำเนินการจับปรับ รวมถึงพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตทันที ทั้งนี้ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อผู้ที่ไม่หวังดี และหากพบการกระทำผิดให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที