สว่างไสวไปทั้งประเทศ สำหรับ “สหรัฐอเมริกา” หนึ่งในชาติที่ให้ความสำคัญกับเทศกาลวันคริสต์มาส และเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งเป็นสองเทศกาลรื่นเริงเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนานในช่วงปลายปี ต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีใหม่ แบบส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่กันอย่างครื้นเครง

โดยหนึ่งในที่ใช้แสดงออกถึงเทศกาลข้างต้น ก็คือการประดับประดาตกแต่งในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลทั้งสอง คือ คริสต์มาสและปีใหม่ อย่างสวยงาม ซึ่งมิใช่แต่เฉพาะในช่วงเวลากลางวันเท่านั้น แต่ให้สวยงามตลอดช่วงเวลาค่ำคืน

แน่นอนว่า เมื่อจะให้สวยงามในช่วงเวลากลางคืน ก็ต้องใช้ดวงไฟ หรือหลอดไฟ สีสัน รูปทรงต่างๆ มาตกแต่ง จนสวยงามและสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ดังนั้น อเมริกันชนทั้งหลายจึงต้อง “จัดเต็ม” กับการตกแต่งข้างต้น

จากการสำรวจความคิดเห็นประชาชนชาวอเมริกัน พบว่า ในปี 2023 (พ.ศ. 2566) ที่เพิ่งผ่านพ้นมา พวกเขาก็ต้องควักกระเป๋า เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการใช้ไฟประดับประดาตกแต่งเพื่อเทศกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นต้นคริสต์มาส รูปจำลองซานตาคลอส ตุ๊กตาหิมะ และกวางเรนเดียร์ ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับเทศกาลที่พวกเขาให้ความสำคัญนี้

ตามการสำรวจความคิดเห็น ก็ได้รับคำตอบว่า ร้อยละ 70 ของกลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม ระบุว่า พวกเขาต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าประดับประดาตกแต่งไฟข้างต้นมากถึง 384 ดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทยก็ราว 13,125 บาท)

โดยเงินจำนวนข้างต้น ก็ต้องถือว่า ไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันของสหรัฐฯ ที่เติบโตแบบชะลอตัว แถมมิหนำซ้ำก็ยังมีปัญหาเรื่องภาวะเงินเฟ้อ เศรษฐกิจฝืดเคือง มากระหน่ำ จนกระเป๋าสตางค์ของชาวอเมริกันต้องฉีกไปตามๆ กัน

ทั้งนี้ ราคาข้างต้น ยังไม่รวมค่าไฟฟ้าที่พวกเขาต้องจ่ายหลังสิ้นเดือนนับจากนี้ สำหรับการเปิดใช้กระแสไฟฟ้า จนบ้านสว่างจ้ากันไปทั้งหลัง

ค่าใช้จ่ายจากการประดับไฟตกแต่งเทศกาลคริสต์มาส ลากยาวมาถึงปีใหม่ ก็ยังมีค่าจ้างช่างมาติดตั้ง โดยในสหรัฐฯ นั้น มีอัตราอยู่ที่ราวๆ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทยก็กว่า 34,000 บาท) แต่ถ้าเจ้าของบ้าน เจ้าของสถานที่ มีฝีมือติดตั้งเอง ก็ยังมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 264 ดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทยราว 9,100 บาท)

นั่น! เป็นเฉพาะค่าใช้จ่ายสำหรับการประดับประดาตกแต่งไฟเนื่องในเทศกาลวันคริสต์มาส และเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ของชาวอเมริกันในปีนี้ สำหรับคิดอัตราเฉลี่ยในแบบเปอร์เซ็นต์ หรือร้อยละ

เมื่อรวมกันเป็นค่าใช้จ่ายของประชาชนทั้งประเทศ ก็เป็นจำนวนเงินเกือบ 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทยราวกว่า 3.07 ล้านล้านบาท) โดยคิดจากจำนวนร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรชาวสหรัฐฯ ทั้งสิ้น 335 ล้านคน ซึ่งก็จะอยู่ที่ราวๆ 234 ล้านคน

โดยเงินจำนวนเกือบ 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยราวกว่า 3.07 ล้านล้านบาทนั้น ก็สามารถนำไปใช้หล่อเลี้ยง หรือกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศเล็ก ให้สามารถลืมตาอ้าปากได้เพลาเลยทีเดียว ส่วนในสหรัฐฯ นั้น เมื่อหมดเทศกาลอันรื่นเริงแล้ว ก็เป็นอันจบกัน โดยเงินที่ลงไป หายวับดับไปพร้อมกับแสงไฟของเทศกาลที่ถูกปิดสวิตช์ลง