ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 31 ธ.ค.66 สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดปัตตานี พบว่าน้ำเริ่มลดลดกว่าเมื่อวานไปมาก แต่ยังมีพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมอยู่ โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยพื้นที่ต่ำ อ.เมือง อ.หนองจิก อ.แม่ลาน อ.ยะรัง ติดกับเริมแม่น้ำปัตตานี ซึ่งขณะที่ประชาชนยังได้รับความเดือนร้อนหลายครัวเรือน โดยปัจจัยสำคัญที่ชาวบ้านต้องหารมากที่สุด คือข้าวสาร อาหารแห้ง ปลากระป๋อง ไข่ และยาทาแก้น้ำกัดเท้า ส่วนข้าวกล่องมีประชาชนแจกเป็นจำนวนมากกว่า3 มือ ส่งผลให้ข้าวชาวบ้านกินไม่หมด เก็บนานๆข้าวบูด อีกทั้งยังสร้างขยะอีกด้วย
สำหรับปัญหาที่ช่วงระหว่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัดปัตตานี สิ่งที่ตามมาคือขยะเป็นจำนวนมากที่พัดมาตามกระแสน้ำ และมากระจุกอยู่โสนที่เป็นพุ่มหญ้าสูงๆ เนื่องจากในหลายพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมรถขยะไม่สามารถที่จะเข้าไปรับได้ หนำซ้ำถังขยะตามหมู่บ้านต่างๆก็ถูกน้ำพัดหายไป
นอกจากนี้ทุกพื้นที่ก็มีการแจกข้าวกล่องตลอดทั้งมื้อในทุกๆวัน และน้ำดื่ม ก็ยิ่งทำให้ขยะยิ่งมากกว่าขึ้น ซึ่งประชาชนนอกกจากต้องการอาหารแล้ว ปัจจัยอื่นๆยังต้องการอีกด้วยเช่นถุงดำขนาดใหญ่ที่จำเป็นมากในขณะนี้ ซึ่งจากการสอบถามพี่น้องประชาชน ส่วนใหญ่ไม่ต้องการข้าวกล่อง แต่ต้องการถุงยังชีพ ที่ประกอบด้วย ข่าวสาร ปลากระป๋อง มาม่า หรืออื่นๆ เพราะที่บ้านสามารถหุงข้าวได้
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ด้านบุคลากร นักศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เดินทางลงพื้นที่เปิดโรงครัว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในหลายๆพื้นที่ของจังหวดปัตตานี โดยได้จัดทำอาหารกล่องพร้อมน้ำดื่มแจกจ่ายแก่ประชาชน ซึ่งดำเนินการจัดตั้งครัวกลาง ปรุงอาหาร โดยครอบคลุมประชาชนที่เดือดร้อน 2,500 คน
นางซียะ สะอิ ชาวบ้านเปิดเผยว่า ปกติจุดที่อยู่ริมแม่น้ำก็เกิดน้ำท่วมบ่อยเป็นเรื่องปกติ แต่ปีนี้น้ำมาเร็วและน้ำท่วมหนักมากว่าทุกครั้ง ทำให้ชาวบ้านหลายคนไม่ทันยกของไว้ที่สูง มีของมีค่าต่างๆก็ได้รับความเสียหาย ส่วนคนที่อยู่จุดน้ำลึกก็ต้องใช้เรือ บางคนไม่มีเรือก็จ้างคนในหมู่บ้านให้ไปส่งหน้าปากซอย
สำหรับของที่เขาแจก บางครั้งไปถึงบ้างไม่ถึงบ้าง คนข้างนอกได้ คนข้างในไม่ได้ พอคนข้างในได้ คนข้างนอกก็ไม่ได้ และถ้าเป็นไปได้อยากได้ข้าวสารอาหารแห้งมากกว่า เพราะข่าวกล่องถ้ามาครบ 3 มื้อแล้ว เดียวก็คนอื่นมาแจกอีก ก็เหลือข้าวกล่องก็จะบูดอีก อีกทั้งแจกข้าวกล่องก็ยิ่งทำให้ขยะเยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นกล่องข้าวทั้งหมดที่ลอยมา ทำให้มีขยะมากตามซอกต่างๆที่น้ำผ่าน