ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 30 ธ.ค.66 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางราง(ขร.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) และบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด(NBM) ลงพื้นที่สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28(PK08) เพื่อตรวจเยี่ยม และทดลองเดินรถ รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ช่วงสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28(PK08) ถึงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) โดยในการทดลองเดินรถนั้น จะออกเดินทางจากสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28(PK08) ไปยังสถานีกรมชลประทาน (PK05) และไปยังชานชาลาที่ 1 เพื่อขึ้นขบวนรถไฟฟ้าขบวนใหม่ไปยังสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี(PK01)
ทั้งนี้เบื้องต้นวันที่ 31 ธ.ค.66 จะเปิดให้บริการครบทั้ง 30 สถานี จากช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร(กม.) หลังจากก่อนหน้านี้เปิดให้บริการแค่ 23 สถานี ส่วนอีก 7 สถานี ได้แก่ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01), สถานีแคราย (PK02), สถานีสนามบินน้ำ (PK03), สถานีสามัคคี (PK04), สถานีกรมชลประทาน (PK05), สถานีแยกปากเกร็ด (PK06) และสถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด (PK07) ยังปิดให้บริการ ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์รางนำไฟฟ้า(Conductor Rail) ของรถไฟฟ้าสายสีชมพูร่วงหล่นลงมาบนพื้นถนน ยาวประมาณ 5 กม. เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนการซ่อมแซมรางนำไฟฟ้านั้น ขณะนี่้ยังไม่แล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการจัดหาอะไหล่ตัวยึด แต่สามารถที่จะเปิดเดินรถแบบทางวิ่ง(track) เดียวก่อนได้ ซึ่งจะไม่ค่อยสะดวก แต่ก็สามารถเปิดเดินรถได้ โดยเบื้องต้นตั้งแต่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) ถึง สถานีสามัคคี (PK04) จะเปิดใช้ทางรถไฟฟ้าได้เพียงฝั่งเดียวก่อน ส่วนสถานีอื่นๆ จะเปิดใช้งานทางรถไฟฟ้าได้ทั้งสองฝั่งตามปกติ อย่างไรก็ตามการเปิดเดินรถทั้ง 30 สถานีดังกล่าว จะยังไม่เก็บค่าโดยสาร 15-45 บาท เพื่อชดเชยโอกาสให้กับประชาชนที่ไม่ได้ทดลองนั่งฟรี เนื่องจากเหตุการณ์รางนำไฟฟ้าร่วงหล่น ตามนโยบาย รมช.คมนาคม แต่จะชดเชยกี่วัน และรายละเอียดการเดินรถที่ชัดเจนจะเป็นอย่างไร รมช.คมนาคม จะเป็นผู้แจ้งให้กับประชาชนทราบในวันที่ 30 ธ.ค.66