สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพรัสเซียระดมโจมตียูเครนครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง ด้วยขีปนาวุธและโดรน จำนวนนับร้อยลูก/ลำ ในพื้นที่เมืองต่างๆ รวมถึงกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 160 ราย รวมถึงสิ่งปลูกสร้าง ตลอดจนอาคารที่พักได้รับความเสียหายหลายแห่ง
โดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า กองทัพรัสเซียระดมโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนประมาณ 110 ลูก/ลำ แต่ส่วนใหญ่ถูกยูเครนยิงสกัดกั้นได้
อย่างไรก็ตาม ทางนายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน เรียกร้องให้บรรดาชาติพันธมิตรของยูเครน ยกระดับการสนับสนุนทางการทหารต่อยูเครนเพิ่มขึ้นอีก ในการทำสงครามต่อต้านรัสเซีย
ขณะเดียวกัน ทางด้านทางการโปแลนด์ โดยผบ.เสนาธิการทหารร่วม กล่าวว่า มีขีปนาวุธบางลูกจากรัสเซียถูกยิงเข้ามาจนล้ำน่านฟ้าของโปแลนด์ในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะออกไปพ้นพรมแดน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งขีปนาวุธลูกดังกล่าวล้ำน่านฟ้าโปแลนด์เข้ามาประมาณ 40 กิโลเมตร
ทั้งนี้ ช่วงเวลาดังกล่าว เป็นเวลาเดียวกับที่กองทัพรัสเซีย เปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดครั่งหนึ่งต่อยูเครน
ด้านนายเจน สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต กล่าวว่า ทางนาโตกำลังเฝ้าจับตาสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากโปแลนด์เป็นหนึ่งในชาติสมาชิกของนาโต