จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่การข่าว กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้แจ้งเตือนกำลังพล ตำรวจ ทหาร และ ปกครอง ให้ระวังการเกิดเหตุร้ายจาก "กองกำลังติออาวุธ” ขบวนการแบ่งแยกดินแดนในเทศบาล ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ โดยให้ระวังรถยนต์เป้าหมาย ที่คนร้ายจะใช้ในการก่อเหตุคืน รถเก๋งโตโยต้า โซลูน่า สีเทา ทะเบียนภก 4737 กรุงเทพ ซึ่งเป็นรถยนต์ที่เคยนำทางนายอัซมัน เปาะเลาะ ก่อก่อวินาศกรรม ของ บีอาร์เอ็น ที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2566 ในพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และรถยนต์ ตู้ โตโยต้า สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่ คนร้าย เคยใช้ในการ โจมตี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 28 สค. 2566 ซึ่งขณะนี้รถทั้ง 2 คัน ยังอยู่ในพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ สายข่าว ยังแจ้งให้ทราบว่า ก่อนที่จะมี อุทกภัย เกิดขึ้นในพื้นที่ ปัตตานี,ยะลา,นราธิวาส” พบว่า แนวร่วม ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ได้ลำเลียง ระเบิดแสวงเครื่อง ข้ามฝั่งจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อใช้ในการก่อเหตุต่อง สถานที่ราชการ และ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ปกครอง ในพื้นที่ ใน เทศบาล ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ซึ่งเป็นวัน สัญลักษณ์ ของรัฐไทย
เกี่ยวกับการป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น พล.ท.ศานติ ศกุลตนาค แม่ทัพภาคที่ 42/ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ได้เปิดเผยว่า ได้มีการ สั่งการ ให้ มีการ ระวังป้องกัน สถานที่ราชการ ในช่วงของวันหยุดยาวปีใหม่ และให้ เจ้าหน้าที่ ทุกฝ่าย ซึ่งมีภารกิจในการ ช่วยประชาชนที่ประสพกับน้ำท่วม ให้ระวังป้องกันตนเอง ในขณะเดินทาง จากฐาน และเดินทาง กลับฐานที่ตั้ง หลังการช่วยชาวบ้าน เพราะ แนวร่วม จะใช้ ช่วงเวลาดังกล่าวในการ โจมตี เจ้าหน้าที่ เพราะพบว่า แนวร่วม มีการ เตรียมการไว้แล้ว แต่การที่มี อุทกภัย เกิดขึ้น อาจจะทำให้ การก่อเหตุยากขึ้น แต่ก็ได้สั่งการอย่าให้มีความประมาท เกิดขึ้น และให้กำลังพล ห้ามลา หยุดในเทศกาลปีใหม่
ในขณะที่ พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 เปิดเผยว่า มีการสั่งการให้ ตำรวจ ทุก สภ. ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในเขตเมือง เขตชุมชน อย่างเข้มข้น ตรวจตรวจรถยนต์ ที่เป็นเป้าหมาย และ ทั่วไป รวมทั้ง จยย. และกลุ่มบุคคลเป้าหมายในพื้นที่ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ ทั้งการก่อการร้ายจากแนวร่วม และการก่ออาชญากรรมอื่นๆ ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเข้าเมือง ทุกด้านของ จ.ปัตตานี,ยาลา ,นราธิวาส “และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งอยู่นอกโซนของ 3 จังหวัด 4 อำเภอ มีการตั้งด่านตรวจโดยรอบเมือง และมีการสนธิกำลัง ตำรวจ ทหารพราน และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ในการตรวจค้น รถยนต์ จยย. กลุ่มเป้าหมายอย่างเข็มงวด
และ ในขณะเดียวกับ นายอับดุบการีม กาลิบ แกนนำฝ่ายประชาสัมพันธ์ ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น ก็มีการส่งสารแสดงความเสียใจกับประชาชนในพื้นที่ 32 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประสพกับปัญหาน้ำท่วม พร้อมทั้งกล่าวโจมตี เจ้าหน้าที่รัฐ ที่ปล่อยให้มีการตัดไม้ทำลายป่าจนเป็นสาเหตุของน้ำท่วมครั้งใหญ่ โดยขอให้พระผู้เป็นเจ้าคุ้มครองชาวปัตตานีและได้บรรลุถึงการเป็น เอกราช