เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2566 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 12) ระบุว่า ด้วยคณะกรรมการค่าจ้างได้มีการประชุมศึกษาและพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับอยู่ ประกอบกับข้อเท็จจริงอื่นตามที่กฎหมายกําหนด เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2566 และมีมติเห็นชอบให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพื่อใช้บังคับแก่นายจ้างและลูกจ้างทุกคน
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 79 (3) และมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2551 คณะกรรมการค่าจ้าง จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นตํา (ฉบับที่ 11) ลงวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2565
ข้อ 2 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยเจ็ดสิบบาท (370 บาท) ในท้องที่จังหวัดภูเก็ต
ข้อ 3 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยหกสิบสามบาท (363 บาท) ในท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร
ข้อ 4 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยหกสิบเอ็ดบาท (361 บาท) ในท้องที่จังหวัดชลบุรี และระยอง
ข้อ 5 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยห้าสิบสองบาท (352 บาท) ในท้องที่จังหวัดนครราชสีมา
ข้อ 6 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยห้าสิบเอ็ดบาท (351 บาท) ในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม
ข้อ 7 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยห้าสิบบาท (350 บาท) ในท้องที่จังหวัดขอนแก่น ฉะเชิงเทรา เชียงใหม่ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี
ข้อ 8 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบเก้าบาท (349 บาท) ในท้องที่จังหวัดลพบุรี
ข้อ 9 ให้ก้าหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบแปดบาท (348 บาท) ในท้องที่จังหวัดนครนายก สุพรรณบุรี และหนองคาย
ข้อ 10 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบเจ็ดบาท (347 บาท) ในท้องที่จังหวัดกระบี่ และตราด
ข้อ 11 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบห้าบาท (345 บาท) ในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี จันทบุรี เชียงราย ตาก นครพนม บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ พังงา พิษณุโลก มุกดาหาร สกลนคร สงขลา สระแก้ว สุราษฎร์ธานี และอุบลราชธานี
ข้อ 12 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบสี่บาท (344 บาท) ในท้องที่จังหวัดชุมพร เพชรบุรี และสุรินทร์
ข้อ 13 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบสามบาท (343 บาท) ในท้องที่จังหวัดนครสวรรค์ ยโสธร และลําพูน
ข้อ 14 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบสองบาท (342 บาท) ในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์ นครศรีธรรมราช บึงกาฬ เพชรบูรณ์ และร้อยเอ็ด
ข้อ 15 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นตํ๋าเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบเอ็ดบาท (341 บาท) ในท้องที่จังหวัดชัยนาท ชัยภูมิ พัทลุง สิงห์บุรี และอ่างทอง
ข้อ 16 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบบาท (340 บาท) ในท้องที่จังหวัดกําแพงเพชร พิจิตร มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน ระนอง ราชบุรี ลําปาง เลย ศรีสะเกษ สตูล สุโขทัย หนองบัวลําภู อํานาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี
ข้อ 17 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต้๋าเป็นเงินวันละสามร้อยสามสิบแปดบาท (338 บาท) ในท้องที่จังหวัดตรัง น่าน พะเยา และแพร่
ข้อ 18 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต้๋าเป็นเงินวันละสามร้อยสามสิบบาท (330 บาท) ในท้องที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา
ข้อ 19 เพื่อประโยชน์ตามข้อ 2 ถึงข้อ 18 คําว่า "วัน" หมายถึง เวลาทํางานปกติของลูกจ้างซึ่งไม่เกินชั่วโมงทํางานดังต่อไปนี้ แม้นายจ้างจะให้ลูกจ้างทํางานน้อยกว่าเวลาทํางานปกติเพียงใดก็ตาม
(1) เจ็ดชัวโมง สําหรับงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้าง ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
(2) แปดชั่วโมง สําหรับงานอื่นซึ่งไม่ใช่งานตาม (1)
ข้อ 20 ห้ามมีให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างเป็นเงินแก่ลูกจ้างน้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
ข้อ 21 ประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฉบับนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2566