เดินหน้าลุย! “43ภาคประชาชน” ออกแถลงการณ์ จี้รบ.รื้อคำถามประชามติ หวั่นสร้างความขัดแย้ง

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.66 องค์กรภาคประชาชน 43 องค์กรได้ร่วมกันออกแถลงการณ์เรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีทบทวนคำถามประชามติ โดยระบุว่า ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 แถลงผลสรุปการทำงานเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2566 โดยมีสาระสำคัญที่จะมีการจัดทำประชามติเพื่อเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ 3 ครั้ง ได้แก่ 1.การทำประชามติถามประชาชนว่า เห็นด้วยหรือไม่กับการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ 2.การทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ตามที่มาตรา 256 กำหนด 3.การทำประชามติรับรองร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และคำถามที่จะใช้ในการทำประชามติครั้งที่ 1 จะมีคำถามเดียว คือ “ท่านเห็นชอบหรือไม่ให้มีการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยไม่แก้ไข หมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 พระมหากษัตริย์” ซึ่งผลสรุปดังกล่าวทำให้ภาคประชาชนผิดหวังและกังวลต่ออนาคตการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชาชนอย่างน้อย 4 ประการ ดังนี้ 1.ภาคประชาชนผิดหวังที่คณะกรรมการดังกล่าวไม่สามารถออกแบบกระบวนการประชามติให้เป็นที่ยอมรับได้

2.ภาคประชาชนผิดหวังที่การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติฯ เป็นเพียงพิธีกรรม 3.ภาคประชาชนกังวลว่าการตั้งคำถามประชามติของคณะกรรมการฯ อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง 4.ภาคประชาชนกังวลว่าการตั้งคำถามที่มีเงื่อนไขซับซ้อนตามใจรัฐบาล อาจทำให้เสียงของประชาชนถูกบิดเบือน อย่างไรก็ตามภาคประชาชนทราบดีว่าผลสรุปของคณะกรรมการฯ ยังไม่ใช่บทสรุปสุดท้าย เพราะการเคาะคำถามประชามติเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เท่านั้น ซึ่งคณะกรรมการฯจะต้องทำรายงานเพื่อเสนอต่อครม. เพื่อให้พิจารณาต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นประมาณช่วงเดือน ม.ค.2567

กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญจึงขอเรียกร้องครม.ที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้พิจารณาประเด็นนี้ให้รอบคอบยิ่งขึ้น โดยขอให้ครม.ทบทวนการตั้งคำถามประชามติที่คณะกรรมการดังกล่าวเสนอ และใช้คำถามประชามติที่เปิดกว้าง ชัดเจน ต่อการสร้างฉันทามติว่าทุกฝ่ายเห็นชอบกับการเดินหน้าสู่รัฐธรรมนูญใหม่ร่วมกัน อีกทั้งขอให้ครม.รับรองคำถามประชามติที่ประชาชนกว่า 211,904 รายชื่อ ใช้สิทธิเข้าชื่อเสนอตามกฎหมายเป็นหนึ่งในคำถามประชามติ โดยให้ครม.มีมติเห็นชอบให้จัดออกเสียงประชามติตามคำถามที่ประชาชนเสนอคู่ขนานไปพร้อมกับคำถามของคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติฯ

สำหรับรายชื่อองค์กรที่ร่วมลงนามในแถลงการณ์ ประกอบด้วย 1. เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ 2.โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) 3.คณะรณรงค์เพื่อนรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) 4.เครือข่ายประชาชนสังเกตการณ์เลือกตั้ง (We Watch) 5.ห้องทดลองนักกิจกรรม (ActLab) 6.ศิลปะปลดแอก 7.กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) 8.มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLaw) 9.ประชาไท 10.คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) 11.สมัชชาคนจน 12.ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน 13.ศูนย์กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม 14.ขบวนการอีสานใหม่ 15.ขบวนการสามัญชน 16.ดาวดิน 17.ชุมชนนักกิจกรรมภาคเหนือ 18. คณะก่อการล้านนาใหม่ 19.Cafe Democracy 20.สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.)

21.ขบวนการประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย 22. มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม 23.เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ 24.สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 25.คณะกรรมการนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 26. องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 27.กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม 28.พรรคโดมปฏิวัติ 29.สหภาพคนทำงาน 30.พิพิธภัณฑ์สามัญชน 31.ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น 32.เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี 33.นครเสรีเพื่อประชาธิปไตย 34.เหนือเมฆเพื่อประชาธิปไตย 35.โมกหลวงริมน้ำ 36.ทำทาง 37.Secure Ranger 38.Law Long Beach 39.The Patani 40.We Volunteer 41.We Fair 42.WeVis และ 43.Vote62