เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2566 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย  เปิดเผยความคืบหน้าการแก้หนี้นอกระบบ หลังเปิดรับลงทะเบียนหนี้นอกระบบตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. จนถึงวันที่ 29 ธ.ค. มีผู้มาจดแจ้งมากถึง 120,000 คน ที่เป็นลูกหนี้ และมีเจ้าหนี้ 80,000 คน  มูลหนี้ประมาน เกือบทะลุ 2,000 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ยังคงเปิดให้ประชาชนมาลงทะเบียนจดแจ้ง เกี่ยวกับหนี้นอกระบบโดยไม่มีวันหยุดราชการ ผ่านระบบออนไลน์ debt.dopa.go.th ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ มาลงทะเบียนด้วยตัวเอง ที่หน่วยงานราชการ อาทิอำเภอ ศาลากลางจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ และอีก 50 เขตกรุงเทพมหานคร ถึงวันที่ 29 ก.พ.2567 ตนเชื่อว่า ยังมีเจ้าหนี้และลูกหนี้นอกระบบเยอะกว่าที่ลงทะเบียนไว้ จึงได้เปิดโอกาสให้มีการลงทะเบียนเพิ่มเติม จึงอยากเชิญชวนให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้นอกระบบมาจดแจ้งให้ถูกต้อง ทั้งนี้จากการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ พบว่า ผู้มาลงทะเบียนยังให้ข้อมูลไม่ครบ ทั้งที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ การแจ้งชื่อเจ้าหนี้นอกระบบ เพราะที่ผ่านมามีการแจ้งชื่อเป็นชื่อเล่น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ยุ่งยากในการเข้าไม่ถึงข้อมูลที่แท้จริง

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ส่วนการไกล่เกลี่ยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. มาจนถึงปัจจุบันผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดนายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ มีมูลหนี้ที่ปรับลด เนื่องจากลูกหนี้ได้จ่ายเงินต้นและดอกมาครบแล้ว วงเงินมากกว่า 100 ล้านบาทนอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ประสานธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์หรือ ธ.ก.ส. ปล่อยกู้ให้กับลูกหนี้นอกระบบที่มีอาชีพให้มาเสียดอกตามกฎหมาย ที่คิดแค่ร้อยละ 1 ต่อเดือน จากเดิมบางรายอาจจะจ่ายร้อยละ 20 บาทต่อวัน ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติแล้ว แต่รอกระบวนการของธนาคาร ที่จะเปิดให้ลูกหนี้นอกระบบมาใช้บริการ จึงขอให้พี่น้องประชาชนใจเย็นๆ

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า นายอนุทินชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้สั่งการมาที่ตนและผู้ว่าฯ ตรวจสอบว่า ภายหลังจากที่ลงทะเบียนแล้ว มีความเป็นอยู่อย่างไร เพื่อจะช่วยอุดช่องโหว่และแก้ปัญหารายได้ไม่พอกับรายจ่าย และพร้อมส่งเสริมอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนที่เป็นลูกหนี้นอกระบบ เพื่อสร้างรายได้ให้เพิ่มพูนมากขึ้นและลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น อาทิ ลดการซื้อลอตเตอรี่ และสิ่งของฟุ่มเฟือย การดื่มเหล้าสูบบุหรี่ เป็นต้น