ป่ารอยต่อฯคึกคัก! "บิ๊กป้อม" เปิดบ้านต้อนรับ "อนุพงษ์-บิ๊กต่อ-เพื่อนร่วมรุ่นฝนแรก" เข้าอวยพร "บิ๊กตู่" ส่งแจกันดอกไม้สวัสดีปีใหม่ "วันนอร์" ชี้ แก้รัฐธรรมนูญประเด็นใหญ่การเมืองปีหน้า คาดจัดทำประชามติถามความเห็น 2 รอบ พร้อมหนุนปชช.แห่ออกมาใช้สิทธิ์ตนเอง สร้างรัฐธรรมนูญที่ไร้ข้อบกพร่อง เพื่อประโยชน์อันยาวนาน "วราวุธ" เผย นายกฯเรียกพรรคร่วมถกเตรียมพร้อมอภิปรายร่างพรบ.งบฯ67 ระบุ ชทพ.เน้นอภิปรายด้านพัฒนาสังคม "นายกฯ"มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี67 "มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย"

 ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.66 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด รับอวยพรเนื่องในวันปีใหม่ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายพรเพชร  วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.สนิทชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ตบเท้าเข้าอวยพร นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 6 หรือรุ่นฝนแรก รวมทั้งคณะกรรมการมูนิธิอนุรักษ์ ป่ารอยต่อ มาอวยพรด้วย 

 ทั้งนี้ มีรายงานข่าว ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ได้ส่งแจกันดอกไม้ มาอวยพรสวัสดีปีใหม่ พล.อ.ประวิตร แต่เนื่องจากติดภารกิจไม่สามารถเดินทางมาด้วยตนเองได้ 
 
วันเดียวกัน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า สำหรับในปีใหม่2567เชื่อว่าจะมีอะไรหลายอย่างเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น สำหรับระบบประชาธิปไตยอาจจะมีการออกเสียงประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ใช้ฉบับปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ทราบว่ารัฐบาลได้มีมติแล้ว ที่จะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อจัดทำประชามติ แต่จะแก้ไขอย่างไร เป็นหน้าที่รัฐบาลที่จะไปตัดสินใจ โดยเชื่อว่าจะมีขึ้นในเร็วๆนี้ในช่วงปี 2567
 
"อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นด้วยกับการจัดทำประชามติ แม้จะเสียเวลานิดหน่อยแต่เพื่อจะได้รัฐธรรมนูญที่ดีเพราะเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศชาติ ถ้ามีรัฐธรรมนูญที่ดีเป็นประชาธิปไตย เราก็จะเป็นประเทศประชาธิปไตย และได้สมาชิกสภาที่ดีและรัฐบาลที่ดีมาบริหารประเทศ อีกทั้งการทำประชามติก็มีกฎเกณฑ์เป็นไปตามพ.ร.บ.ประชามติอยู่ หากประชาชนมาใช้สิทธิ์ไม่ถึงครึ่ง การทำประชามติก็ต้องเดินหน้าใหม่ เพราะไม่เป็นผล และต้องเสียงบประมาณไป ซึ่งแต่ละครั้งใช้งบฯกว่า 3,000ล้านบาท ส่วนตัวจึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนได้ออกมาใช้สิทธิ์ทุกคน เสียเวลาเล็กน้อยแต่เพื่อประโยชน์อันยาวนานแต่ถ้าเราไม่ไปใช้สิทธิ์การลงประชามติ รัฐธรรมนูญใหม่ก็จะเกิดขึ้นไม่ได้"
 
นายวันมูหะมัดนอร์ ยังระบุว่า การจัดทำประชามติอาจไม่ใช่เพียงรอบเดียว โดยรอบแรกเป็นการถามประชาชนว่าเห็นควรเปลี่ยนแปลงแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ หลังจากนั้นเมื่อมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จก็ต้องทำประชามติถามความเห็นประชาชนอีกครั้งว่า จะเห็นชอบหรือไม่ ซึ่งสำคัญมากกว่าในการถามความเห็นครั้งแรก อีกทั้งแม้จะมีประชาชนมาใช้สิทธิ์เกินครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิ์แล้ว ก็ยังต้องมีผู้เห็นชอบครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ด้วย ส่วนตัวจึงอยากให้ประชาชนออกมาใมช้สิทธิ์ของตนเองทุกคน อยากเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนที่ยังบกพร่อง เพื่อให้มีรัฐธรรมนูญที่ดีขึ้นและสนองความต้องการของประชาชนนั่นเอง
 
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายกรัฐมนตรีเรียกประชุมพรรคร่วมรัฐบาลเตรียมความพร้อมในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ว่า นายกฯได้เชิญพรรคร่วมรัฐบาลมารับประทานข้าวเที่ยง และจะหารือเกี่ยวถึงแนวทางอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในวันที่ 3-5 ม.ค.67 คงจะได้ฟังจากนายกฯว่าจะมีแนวทางอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะไปประสานงานกับสมาชิกในพรรค

 อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรค ชทพ.ได้เวลาอภิปรายมา 30 นาที โดยจะมีการแบ่งสรรปันส่วนกันในพรรค อาจจะคนละ 10-15 นาที ซึ่งต้องมาพิจารณากันว่า งบประมาณปี 67 ที่มีเวลาใช้แค่ 5 เดือน สมาชิกแต่ละคนจะอภิปรายอย่างไรบ้าง โดยในส่วนของพรรค ชทพ.ดูแลในด้านพัฒนาสังคม ต้องให้ความสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะกระทรวงนี้มีเนื้องานที่เยอะและเกี่ยวข้องกับประชาชนกลุ่มเปราะบาง คนสูงอายุ คนพิการ ตอนนี้ให้สมาชิกไปทำการบ้านเพื่อเตรียมตัวอภิปราย

 ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนงบประมาณของ พม.จะมีการเตรียม พร้อมอภิปรายอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า เท่าที่ดูไม่ได้กังวลอะไร เพราะงบประมาณของ พม.ไม่ได้เยอะอะไร ส่วนใหญ่เป็นงบประมาณสนับสนุนและเป็นสวัสดิการให้กับเด็กแรกเกิดและดูแลผู้สูงอายุ

 ขณะที่ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2567 ว่า มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย
  
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้โพสต์ผ่าน X ว่า "เด็กไทยเก่งครับ มีศักยภาพ มีความคิดดี และทันสมัย หน้าที่ของรัฐบาลคือการสนับสนุนให้เด็กไทยเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีศักดิ์ศรี มีความภูมิใจในตัวเอง ผมอยากให้เด็กไทย Enjoy กับการใช้ชีวิตในวัยเด็ก แต่ขณะเดียวกันก็มีโลกทัศน์ที่กว้าง มีความเป็นไทยพร้อม ๆ กับมีความเป็นสากล เป็นพลเมืองของโลกที่สามารถเคารพความแตกต่างหลากหลายได้ เพื่อร่วมกันสร้างสังคมประชาธิปไตยที่เข้มแข็งต่อไป"

 ที่สำนักงานกรมทางหลวง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมช.คลัง เดินทางเยี่ยมชมศูนย์บริหารจัดการจราจร และอุบัติเหตุ เพื่อติดตามการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม และ นางมนพร เจริญศรี รมช.
          
 นายกรัฐมนตรี รับฟังการนำเสนอภาพรวมการบริหารจัดการช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 จากเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ซึ่งกระทรวงคมนาคม เปิดให้ใช้มอเตอร์เวย์จำนวน 5 เส้นทางฟรี ประกอบด้วยสายบางปะอิน-บางพลี, สายพระประแดง-บางขุนเทียน, สายบางใหญ่- กาญจนบุรี (ช่วงด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก-ด่านกาญจนบุรี), สายบางปะอิน - นครราชสีมา (ช่วงอำเภอปากช่อง - ทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา) และสาย กรุงเทพฯ - ชลบุรี, พัทยา - มาบตาพุด
          
 จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินไปเยี่ยมชมศูนย์บริการ ช่วยเหลือประชาชน Call Center โทร.1586 รับชมสถิติการโทรขอความช่วยเหลือช่วง 10 เดือนหลังที่ผ่านมา
          
 นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการรับฟังรายงานการเตรียมความพร้อมของกรมทางหลวงว่า วันนี้มาที่กรมทางหลวงเพื่อมาดูการรายงานสภาพจราจรของทุกเส้นทาง พร้อมขอชื่นชมกรมทางหลวง และกระทรวงคมนาคมที่ช่วยเปิดถนนบางสายให้ประชาชนได้ใช้บริการฟรีในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อระบายการจราจร
          
 พร้อมกับขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เสียสละเวลาส่วนตัวมาทำงานอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีมั่นใจในมาตรการดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกของกรมทางหลวง แล้วอยากจะฝากประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา อยากให้กลับไปใช้เวลาที่มีค่ากับครอบครัวอย่างมีความสุข และระมัดระวังเรื่องการดื่ม หากเมาแล้วต้องไม่ขับ รวมถึงให้ระมัดระวังในช่วงขากลับด้วย
          
 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นห่วงช่วงเฝ้าระวัง 7 วันอันตราย ดังนั้น ถ้าดื่มแล้วก็อย่าขับดีกว่า เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นจากเมาแล้วขับ แม้แต่ดื่มแอลกอฮอล์เกินปริมาณที่กฎหมายกำหนดก็เสี่ยงต่ออุบัติเหตุไม่ควรจะขับรถแล้ว และอยากให้เป็นช่วงที่ทุกคนมีความสุข ขณะที่กระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อมไว้ตลอด
          
 ส่วนข้อกังวลการเดินทางกลับของประชาชนในวันที่ 1 มกราคม ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดวันหยุดราชการ อาจมีอุบัติเหตุ เกิดขึ้นเยอะเพราะ หลายคนยังเมาค้างจากคืนส่งท้ายปีเก่านั้น  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ก็อย่างที่ผมบอกไปว่าดื่มแล้วไม่ขับ หรือดื่มน้อยหน่อยก็ได้"