ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วันนี้ 28 ธ.ค.2566 ปิดที่ 1,415.85 จุด เพิ่มขึ้น 5.42 จุด (+0.38%) มูลค่าซื้อขาย 47,793.66  ล้านบาท ทั้งนี้ "นายชาญชัย พันทาธนากิจ" ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันสุดท้ายของปีดีดขึ้นมาปิดบวกได้ มูลค่าการซื้อขายกลับมาหนาแน่นกว่าช่วงต้นสัปดาห์ เก็งรับเม็ดเงินกองทุนลดภาษี รวมถึง TESG ไหลเข้ามาในโค้งสุดท้าย โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ ซึ่งหุ้นกลุ่ม ESG มีผลต่อดัชนี 0.4%

อย่างไรก็ตาม ยังปัจจัยที่ต้องติดตามในวันพรุ่งนี้ (29 ธ.ค.) คือ สหรัฐเปิดเผยยอดขอรับสวัสดิการว่างงาน  ส่วนวันที่ 31 ธ.ค.จีนรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตและนอกภาคการผลิต ในเดือนธ.ค.66

ส่วนทิศทางตลาดหุ้นไทยปีหน้า เมย์แบงก์ให้เป้าดัชนี SET ที่ 1,640 จุด เชื่อกลับมาฟื้นตัวได้ตามภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ได้รับมีแรงหนุนจากภาคส่งออกกลับมาดี การบริโภคภายในประเทศ และการใช้จ่ายของภาครัฐ กำไรบริษัทจดทะเบียนปี 67 คาดโต 14% นอกจากนี้ มองดอกเบี้ยได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วทั้งสหรัฐและไทย ทำให้ภาวะ Derating P/E กดดันลดลง โดยในเดือนมกราคม คาด SET จะฟื้นตัวได้ หรือ January Effect โดยในเดือนม.ค.67 ให้แนวต้าน 1,460 จุด แนวรับ 1,380 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
BBL        ปิดที่ 156.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
SCB        ปิดที่ 106.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
KBANK   ปิดที่ 135.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
DELTA    ปิดที่  88.00 บาท  ลดลง 3.25 บาท
AOT        ปิดที่  59.75 บาท  ลดลง 0.50 บาท