เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 ธ.ค.66 ที่บริเวณหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิตใหม่ ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร กทม. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมกำลังตำรวจ บก.น.2 บก.จร. บก.สปพ. กำลังสารวัตรทหาร เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก และอาสาสมัคร รวมกว่าร้อยนาย ร่วมกันปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม และอํานวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า เป็นไปตามการเน้นย้ำของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในการดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งในเรื่องของการจราจร ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และการป้องกันอาชญากรรม ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดมาตรการรองรับการดูแลทั้ง 3 เรื่องนี้อย่างเต็มที่ โดยในวันนี้เป็นการปล่อยแถวเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติตามมาตรการดูแลทั้ง 3 เรื่อง ซึ่งไม่ใช่แค่ในพื้นที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 แต่เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ทั่วทั้งประเทศ ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกภาคส่วนก็ได้เข้มงวดในการดูแลมาตรการทั้ง 3 เรื่องกับประชาชนมาโดยตลอด 

สำหรับก่อนหน้านี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับรถโดยสารขนส่งระหว่างจังหวัด จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตหลายครั้ง จึงได้ร่วมมือกับบริษัทขนส่ง ในการจัดจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และปริมาณสารเสพติดกับคนขับรถทุกคนที่สถานีขนส่ง เพื่อเป็นการป้องกันเบื้องต้นไม่ให้ผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดมาทำหน้าที่ขับรถอันเสี่ยงจะเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งถ้าหากคนขับผ่านการตรวจทั้ง 2 จุดและไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติด ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นพลขับได้ รวมทั้งเน้นย้ำไปยังผู้ประกอบการขนส่งเอกชนให้ดำเนินการส่งผลตรวจพลขับมายังด่านของสถานีและให้มีการสับเปลี่ยนคนขับทุกๆ 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันความเหนื่อยล้าและอาจเกิดอุบัติเหตุได้ 

ส่วนมาตรการตามท้องถนน ทางตำรวจทางหลวงร่วมกับตำรวจท้องที่ต่าง ๆ จะได้มีการจัดด่านเฝ้าระวังตามทาง เพื่อคอยตรวจเช็คคนขับว่า ยังมีสภาพที่จะขับต่อไปได้หรือไม่โดยเฉพาะตามเส้นทางระยะไกล อีกทั้งเน้นย้ำไปยังผู้ประกอบการให้เตรียมความพร้อมทั้งคนขับและยานพาหนะ ต้องคอยเช็คสภาพที่พร้อมให้บริการ และต้องคอยตรวจสอบเส้นทางที่สุ่มเสี่ยง มีการก่อสร้างหรือเส้นทางที่อาจจะสามารถใช้เลี่ยง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุได้ 

นอกจากนี้ ในส่วนของการป้องกันอาชญากรรม ได้จัดกำลังสายตรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ ในการเฝ้าระวังความปลอดภัยตามสถานีขนส่งทั่วประเทศ ทั้งการเพิ่มจุดแจ้งเหตุและการนำชุดสืบสวนคอยสังเกตตรวจตราบุคคลที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงอาจจะก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ เพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้แก่ประชาชนที่เดินทางมายังสถานีขนส่ง และประชาสัมพันธ์ถึงผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะบริเวณโดยรอบอย่าได้คิดฉวยโอกาสขึ้นราคา โปรดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมาย มิเช่นนั้นเจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมายในการดำเนินคดี โดยได้ประสานงานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกในการตรวจตราการขนส่งสาธารณะบริเวณโดยรอบสถานี อีกทั้งจะเพิ่มจุดรับเรื่องร้องเรียน การคิดค่าโดยสารเกินราคา เพื่อความสะดวกแก่ประชาชน 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ อาจจะมีการฉวยโอกาสลักลอบขนส่งสิ่งของผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด ซึ่งเรื่องนี้ได้สั่งการเข้มงวดไปยังด่านความมั่นคงทั่วประเทศและตามชายแดนในการเฝ้าระวังตรวจตรา มิให้มีการฉวยโอกาสขนส่งสิ่งของผิดกฎหมายในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วย ในส่วนของการดูแลรักษาความปลอดภัยในคืนนับถอยหลังสู่ปีใหม่นั้น ทางตำรวจมีความพร้อม 100% ในการเฝ้าระวังเหตุและรักษาความปลอดภัยตามพื้นที่จัดงานสำคัญ ทั้งในกรุงเทพและทั่วประเทศ โดยพร้อมที่จะดูแลทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลการข่าวที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษแต่อย่างใด ขณะที่โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจของนครบาลนั้น ตอนนี้มีบ้านเข้าร่วมโครงการแล้วประมาณ 200 หลัง และพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับบ้านเรือนที่เข้าร่วมโครงการ 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ทุกภาคส่วนมีความพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยและป้องกันเหตุอาชญากรรม เป็นของขวัญให้แก่พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งขออวยพรให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยความสวัสดิภาพ ฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยความปลอดภัยและอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

นายไกรฤกษ์ อรุณฉาย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหาร บขส. ระบุว่า ในปีนี้มาตรการ ป้องกันอุบัติเหตุ ใน รถขนส่งสาธารณะหรือรถรถทัวร์ มีความเข้มมากกว่าปกติ โดยในปีนี้ คนขับรถ ทุกคน ต้องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์รวมถึงสารเสพติดทุกชนิดก่อนขึ้นรถ ทุกคน ไม่เว้น กระทั่ง รถร่วมบริการ ที่ลงทะเบียน กับความกรมการขนส่งทางบกถึง 600 คัน ซึ่งหากมีปริมาณแอลกอฮอล์ แม้นเพียงเล็กน้อย ไม่เกินกฎหมายกำหนด ก็ไม่สามารถจับพวงมาลัยได้ ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกได้ ประกาศเรื่องนี้ล่วงหน้าไปแล้ว หากมีคนฝ่าฝืน ก็ต้องถูกดำเนินการตัดสิทธิ์ ขึ้นขับรถในวันนี้ทันที ซึ่งนั่นหมายถึงในวันนี้คุณจะขาดรายได้ และอาจส่งผล ในระยะยาว เพราะทางบริษัทขนส่ง จะส่งหนังสือ รายงานเรื่องดังกล่าวไปยังบริษัท ต้นสังกัด

สำหรับในวันพรุ่งนี้ ซึ่งมีปริมาณ ผู้โดยสาร เดินทางกลับภูมิลำเนามากที่สุด โดยมียอดจอง ตั๋วเดินทางล่วงหน้า แล้ว 70,000 คน ซึ่งยังไม่รวม ผู้โดยสารที่ walk in เข้ามาในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับยอดตัวเลข ผู้โดยสารที่เดินทางออกต่างจังหวัดในปีนี้เริ่มคึกคักตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา 24 ธันวาคม มีจำนวนผู้โดยสารมากถึง 40,000 คน มากกว่าปีที่แล้ว เกือบครึ่ง ซึ่ง ทำให้เห็นว่า ประชาชน มีการวางแผนการเดินทางล่วงหน้า อย่างดี เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ไม่มีรถ