เมื่อเวลา 14.00  น. วันที่ 27 ธ.ค. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ตอบคำถามเมื่อถามว่า เป็นนายกฯ มา 3 เดือนมีอะไรที่บั่นทอนความรู้สึกมากที่สุด นายกฯ กล่าวว่า "เอาตรงๆ เรื่องที่บั่นทอนความรู้สึกไม่ได้เกิดขึ้นจากฝ่ายการเมือง ไม่ได้เกิดขึ้นจากผู้สื่อข่าว ที่รู้สึกสะเทือนใจมากที่สุดคือเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ"

 

เมื่อถามย้ำว่า เพราะไม่สามารถทำตามที่ประกาศไว้ได้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องของไตรภาคี ตนไม่ได้เสียใจที่คนมาว่าพูดแล้วทำไม่ได้ ดีแต่พูดแล้วทำไม่ได้ ไม่ใช่ตรงนั้น อย่างที่ตนพูดไปหลาย ๆ  ท่านอาจจะเข้าใจที่ตนบอกไปแล้วว่า หลายเรื่องไม่จำเป็นต้องอิงกับกฎหมายหรือไตรภาคี เป็นเรื่องของสามัญสำนึก เป็นเรื่องที่ต้องเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน 

 

นายเศรษฐา กล่าวว่า สมมุติคุณเรียนจบมา ย้อนหลังไป 10 ปีที่แล้ว คุณได้เงินเดือน 15,000 บาท แล้วอีก 9 ปีต่อมาคุณได้เงิน 17,000 บาท คุณมีความแฮปปี้ไหม แรงงานขั้นต่ำเงินเดือนต่อวัน 300 บาท วันนี้ 337 บาท ขึ้นมา 12 เปอร์เซ็นต์ คุณคิดว่าแฮปปี้ไหม 

 

เมื่อถามว่า ตอนที่นายกฯ เป็นอดีตผู้บริหาร แล้วค่าแรงขั้นต่ำปรับขึ้น 300 บาทได้มีการปรับตัวอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่เคยโวยวายในเรื่องนี้

 

เมื่อถามว่า ทำไมสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงทำได้ นายเศรษฐา กล่าวว่า สมัยก่อนไม่มี ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลง และตนไม่แน่ใจว่าเมื่อ 9 ปีที่แล้วมีคณะกรรมการไตรภาคีหรือไม่ อำนาจของคณะกรรมการไตรภาคีมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ 

 

เมื่อถามว่า เพราะข้อกฎหมายทำให้เราไปแตะไม่ได้ จะทำอย่างไรให้บรรลุนโยบายของรัฐบาลให้ได้ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องพยายามต่อไป ก็ต้องใช้วิธีอื่นใช้บางรายอำเภอ บางอาชีพพูดคุยแก้ไขกฎหมาย เมื่อถามย้ำว่า เป็นไปได้ที่จะแก้ไขกฎหมาย นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็คิดได้ เพราะเป็นวิธีที่สามารถทำได้ คงต้องเป็นอย่างนั้นมั้ง แต่อย่าเพิ่งไปไกลขนาดนั้น เอาแค่ใจเขาใจเรา คุณจบมา 9 ปีที่แล้วเงินเดือน 30,000 บาท แต่วันนี้เงินเดือน 33,700 บาท คุณแฮปปี้ไหม เอาตรงนี้ก่อนดีกว่า ไม่ต้องพูดเรื่องกฎหมาย 

 

เมื่อถามว่า แรงงานก็ไม่แฮปปี้ นายกฯ ก็ไม่แฮปปี้ คิดว่าการพูดแบบนี้หลายๆ ครั้งจะถึงใจผู้บริหาร คนที่ให้เงินเดือนได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับสื่อว่าเห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรงแบบนี้หรือไม่ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องจิตใต้สำนึก จุดยืนตนชัดเจนอยู่แล้ว สื่อถามตนว่าไม่มีความสุขเรื่องไหน ตนไม่มีความสุขเรื่องนี้ ตนอธิบายแล้วไม่มีใครไม่เห็นด้วย ซึ่งหน้าที่ของตนในฐานะนายกฯ ก็ต้องไปดู ไปพูดคุยกับสภานายจ้าง ปลัดแรงงาและรัฐมนตรีว่าการกกระทรวงแรงงาน ซึ่งหน้าที่ของสื่อก็เป็นตัวแทนประชาชนในการเรียกร้อง ก็ช่วยๆ กันทำ