เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 สั่งการให้ พ.ต.ท.นที คุ้มล้วนล้อม สว.ตม.จว.สระบุรี บูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนปราบปราม ตม.จว.สระบุรี และที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบจุดหรือพื้นที่เสี่ยง ซึ่งบุคคลต่างด้าวอาจใช้เป็นสถานที่นัดหมาย พบปะ หรือเตรียมการกระทำความผิด โดยในช่วงการระดมกวาดล้างอาชญากรรม เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2567 

พ.ต.ท.นที กล่าวว่า สืบเนื่องจากพล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 ที่เน้นย้ำนโยบายในการยกระดับมาตรฐานการรักษาเสถียรภาพ ความมั่นคง อันเกี่ยวเนื่องกับบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งบุคคลสัญชาติไทยและบุคคลต่างด้าว รวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อันเป็นการส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวระดับชาติของรัฐบาล ซึ่ง 5 นโยบายหลักของ ผบช.สตม.ที่มอบหมายให้ทุกหน่วยตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด เข้มข้นในการปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม คือ 1. X-Ray พื้นที่เสี่ยง บุคคลต่างด้าวกลุ่มเสี่ยง, 2. ตรวจการแจ้งที่พัก,3. สุ่มตรวจตามคำร้องขออยู่ต่อ, 4. สำรวจ จัดทำข้อมูลท้องถิ่น และ 5. พบปะเยี่ยมเยียนบุคคลต่างด้าว 

ทางตม.จว.สระบุรี จึงสนธิกำลังออกตรวจสอบจุดหรือพื้นที่เสี่ยง ซึ่งบุคคลต่างด้าวอาจใช้เป็นสถานที่นัดหมาย พบปะ หรือเตรียมการกระทำความผิด, การตรวจการแจ้งที่พักของบุคคลต่างด้าว และเจ้าของสถานที่พักอาศัย ตาม ม.37 และ 38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522, การสุ่มตรวจสอบภายหลังการอนุญาตให้บุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นการตรวจสอบโดยมิได้นัดหมายล่วงหน้า เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงว่าบุคคลต่างด้าวปฏิบัติตามระเบียบ ข้อกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์การขออยู่ต่อหรือไม่, สำรวจและจัดทำข้อมูลท้องถิ่นในเขตพื้นที่ จว.สระบุรี ให้เป็นปัจจุบัน ถูกต้อง สมบูรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสืบสวน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และพบปะเยี่ยมเยียนบุคคลต่างด้าว เพื่อเป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์ ลดช่องว่างระหว่างบุคคลต่างด้าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี และเป็นวิธีการแสวงหาความร่วมมือจากบุคคลต่างด้าว

โดยสามารถจับกุมดำเนินคดีบุคคลต่างด้าวกระทำความผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ทั้งกรณีการหลบหนีเข้าเมือง การอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) และการไม่แจ้งที่พักอาศัยของบุคคลต่างด้าว และเจ้าของสถานที่พักอาศัย ในเขตพื้นที่ จว.สระบุรี ได้จำนวน 15 ราย ทั้งนี่ เพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลสัญชาติไทยและบุคคลต่างด้าวในเขตพื้นที่ จ.สระบุรี รวมถึงเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวใน จ.สระบุรี อันเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เสริมสร้างอาชีพ การจ้างงาน และความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชนชาว จ.สระบุรี อย่างยั่งยืน ต่อไป