พ่อค้าแม่ค้า “ลูกชิ้นยืนกิน” บุรีรัมย์ หนึ่งเดียวในโลก เร่งผลิตลูกชิ้นจากเนื้อหมูวันละกว่า 100 กิโลกรัม เตรียมขายในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 คาดประชาชน นักท่องเที่ยวแห่มาซื้อและยืนกินคึกคัก เป็นเอกลักษณ์การกินที่ไม่เหมือนใคร
วันที่ 27 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใกล้ถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ซึ่งมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน ก็จะมีประชาชนที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดเดินทางกลับภูมิลำเนา และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ นอกจากส่งผลดีต่อร้านขายของฝากของที่ระลึก รวมถึงร้านอาหารต่างๆ แล้ว “ลูกชิ้นยืนกิน” ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายลูกชิ้นทอด และลูกชิ้นสดยังไม่ทอด อยู่บริเวณด้านหลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ที่มีอยู่กว่า 10 ร้าน และหน้าสถานธนานุบาล เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ หลังเก่า (โรงรับจำนำหลังเก่า) นั้น ก็จะขายดิบขายดีไม่แพ้สินค้าชนิดอื่น เพราะมีเอกลักษณ์การกินที่ไม่เหมือนใคร และมีเพียงจังหวัดเดียวในประเทศไทย หรือแห่งเดียวในโลก ทำให้พ่อค้าแม่ค้าลูกชิ้นยิน ที่บุรีรัมย์ ต่างเตรียมตัวรับลูกค้ากับยอดขายที่จะเพิ่มขึ้นกว่าปกติในช่วงเทศกาลปีใหม่
โดยเฉพาะ “ลูกชิ้นหมูเกรียงไกร” ที่ขายอยู่หน้าสถานธนานุบาล เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ หลังเก่า (โรงรับจำนำหลังเก่า) ที่ได้รับการรับรองโดยหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์เป็น “ของดีจังหวัดบุรีรัมย์” ซึ่งขายมายาวนานหลายสิบปี เป็นลูกชิ้นหมูที่ทำจากเนื้อหมู มีความนุ่มอร่อย ที่สำคัญน้ำจิ้มเป็นสูตรเฉพาะทำจากน้ำมะขามเปียก พร้อมมีกลิ่นหอมของพริกทอด ทำให้รสชาติเป็นที่ถูกปากของลูกค้า
ซึ่งในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ 2567 ก็ได้เตรียมปริมาณเนื้อหมูที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการทำลูกชิ้นวันละกว่า 100 กิโลกรัม ไว้สำหรับจำหน่ายให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ได้มาเลือกซื้อและยืนกินลูกชิ้นกันอย่างเพียงพอ
นายเกรียงไกร ทองยัง เจ้าของร้าน “ลูกชิ้นหมูเกรียงไกร” ลูกชิ้นยืนกินเจ้าเก่าแก่ขายมานานหลายสิบปี จนได้รับการรับรองเป็นของดีประจำจังหวัด โดยเจ้าของร้าน เผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ที่จะถึงนี้ ก็ได้เตรียมผลิตลูกชิ้นวันละกว่า 100 กิโลกรัม เพื่อไว้จำหน่ายให้กับประชาชน อยู่ต่างจังหวัดเดินทางกลับภูมิลำเนา และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มาเลือกซื้อไปรับประทานที่บ้าน หรือยืนกินลูกชิ้นอยู่หน้าร้าน รวมถึงซื้อเป็นของฝาก
ส่วนน้ำจิ้ม ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะทำจากน้ำมะขามเปียก พร้อมมีกลิ่นหอมของพริกทอด ทำให้รสชาติเป็นที่ถูกปากของลูกค้า ก็จะทำน้ำจิ้มเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 30 กิโลกรัม จากปกติทำน้ำจิ้มวันละ 20 กิโลกรัม ซึ่งคาดว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัด และจากต่างจังหวัดมาซื้อลูกชิ้นและยืนกินลูกชิ้นกันอย่างคึกคัก เพราะมีเอกลักษณ์การกินที่ไม่เหมือนใคร
นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า ปกติ ลูกชิ้นหมูเกรียงไกร เปิดขายอยู่บริเวณหน้าสถานธนานุบาล เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ หลังเก่า (โรงรับจำนำหลังเก่า) โดยลูกชิ้นทอดซึ่งเน้นเป็นลูกชิ้นหมู มีความนุ่มอร่อย ที่สำคัญน้ำจิ้มเป็นสูตรเฉพาะทำจากน้ำมะขามเปียก พร้อมมีกลิ่นหอมของพริกทอด ทำให้รสชาติเป็นที่ถูกปากของลูกค้า ส่งผลให้แต่ละวันมีประชาชนและนักท่องเที่ยวมาซื้อและยืนกินแล้ว หลายคนติดอกติดใจได้ซื้อลูกชิ้นหมูที่ยังไม่ได้ทอดติดไม้ติดมือกลับไปทอดเอง เพื่อรับประทานที่บ้าน และเป็นของฝากด้วย
ส่วนราคาขายก็ไม่แพงเพียงไม้ละ 5 บาท หากซื้อเป็นชุด ลูกชิ้นหมูชุดเล็ก 7 ขีด 100 บาท พร้อมผัก น้ำจิ้ม ลูกชิ้นหมู ชุดใหญ่ 1 กิโลกรัม 140 บาท พร้อมผัก น้ำจิ้ม ส่วนลูกชิ้นเนื้อวัวชุดเล็ก 7 ขีด 120 บาท พร้อมผัก น้ำจิ้ม และลูกชิ้นเนื้อวัว ชุดใหญ่ 1 กิโลกรัม 160 บาท พร้อมผัก น้ำจิ้ม ขณะที่น้ำจิ้มลูกชิ้น กิโลกรัมละ 60 บาท เป็นขวดๆ ละ 20 บาท หรือแล้วแต่ลูกค้าจะสั่งซื้อ โดยจะขายตั้งแต่ 06.00-18.00 น. ของทุกวัน
ซึ่งปัจจุบันลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ ยังมีกระจายอยู่ตามอำเภอต่างๆ ของจังหวัดอีกเป็นจำนวนมาก แต่ทุกร้านมีจุดเด่นเหมือนกันคือเป็นลูกชิ้นยืนกิน