นายกฯ อวยพรปีใหม่ ให้ทุกคนประสบความสำเร็จ สุขภาพแข็งแรง คิดอะไรก็ขอให้สมดังหวัง ขออย่าดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ ขณะที่นักข่าวทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายารัฐบาล แกงส้ม"ผลัก" รวม ส่วนเศรษฐาได้ฉายา เซลล์แมนสแตนด์"ชิน" เจ้าตัวบอกสื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายาเป็นสีสัน เปรียบแกงส้ม 'ผลัก' รวม เป็นรัฐบาลครบเครื่อง พร้อมทำงานให้ ปชช. ย้ำรัฐบาล 314 เสียง แฮปปี้ดี ไม่คิดปรับครม. ยอมรับดึงปชป.ร่วมดีแง่ตัวเลข แต่ไม่ดีต้องเกลี่ยเก้าอี้รมต.ใหม่ ส่วนศาลฎีกาฯ มีคำสั่งยกฟ้อง ยิ่งลักษณ์ โยกย้ายถวิลพ้นเลขาสมช. ไม่ผิด
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายารัฐบาล และ รัฐมนตรีประจำปี ที่ยึดถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล โดยปราศจากอคติ ได้มีมติร่วมกันตั้งฉายารัฐบาล รัฐมนตรี และวาทะแห่งปี ประจำปี 2566 ดังนี้ ฉายารัฐบาล แกงส้ม"ผลัก"รวม "แกง"คือคำสแลงที่ใช้แทนความหมายว่า แกล้ง "ส้ม" คือสีของพรรคก้าวไกล ส่วนคำว่า "ผลักรวม" ล้อมาจากคำว่า "ผักรวม" เมนูแกงส้มยอดนิยมประเภทหนึ่ง เมื่อรวมกันแล้ว นิยามความหมายในทางการเมือง สะท้อนกระแสสังคม มองพรรคก้าวไกลถูกกลั่นแกล้ง MOU ถูกฉีก และถูกผลักออกจากการร่วมรัฐบาล ด้วยเงื่อนไขทางกฎหมาย และ ข้ออ้างทางการเมือง ส้มจึงหล่นใส่พรรคอันดับรอง กลืนน้ำลายจัดตั้งรัฐบาล "มีลุง" ก็ไม่เป็นไร โดยให้เหตุผลเพื่อความสมานฉันท์ ทำเอาแฟนคลับผู้รักประชาธิปไตยถึงกับหัวใจสลาย ก่อเกิดวาทกรรม "ตระบัดสัตย์" ดังนั้น แกงส้ม"ผลัก"รวม จึงใช้อธิบายปรากฏการณ์ทางการเมือง ของการจัดตั้งรัฐบาลที่ว่า "ชนะเลือกตั้ง แต่แพ้จัดตั้ง" ได้เป็นอย่างดี
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้รับฉายา เซลล์แมนสแตนด์"ชิน" นับแต่เศรษฐีที่ชื่อ "เศรษฐา" เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็เดินหน้าทำงานทันที โดยเฉพาะการหารายได้เข้าประเทศ ต้องยอมรับในความมุ่งมั่นตั้งใจ คิดเร็วทำไว เดินสายพกประเทศไทยใส่กระเป๋า ไปโรดโชว์จีบนักลงทุนทั่วโลก ประกาศตัวเป็นเซลล์แมนเต็มรูปแบบ แต่ในทางการเมือง ยังถูกมองว่า ไม่ใช่นายกฯ ตัวจริง เงาของคนในตระกูล "ชินวัตร" ยังปกคลุม เปรียบเสมือนตัวแสดงแทน หรือ สแตนด์อิน เพราะเคยหลุดปากขณะออกงานพร้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวสุดที่รักของนายใหญ่ หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยเช่นกัน ว่า "นายกฯ คนไหน มีนายกฯ 2 คน อีกทั้งหลายนโยบาย ก็ถูกวิจารณ์ว่า ต่อยอดมาจากนโยบายเดิม ของรัฐบาลนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ฉายา รองกอง รองนายกรัฐมนตรี คนที่ 1 คนที่นายกฯ ต้องเชื่อใจ และ ปล่อยให้ดูแลทุกอย่าง เมื่อต้องออกไปเดินสายขายของในต่างประเทศ ต้องรับเละทุกงานในมิติการเมือง และ ถูกโยนให้รับผิดชอบเป็นเจ้าภาพหลักหลายเรื่อง ที่นายกฯ หลายยุคหลายสมัยต้องนั่งหัวโต๊ะ กลับกลายเป็นการประชุมครั้งแรกของรัฐบาลนี้ รองนายกฯ ที่ชื่อ "ภูมิธรรม" ต้องทำหน้าที่แทน นับตั้งแต่การจัดตั้งรัฐบาล การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัญหาประมง กลุ่มพีมูฟ สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ EEC หรือแม้แต่ช่วงวิกฤตนาทีชีวิตแรงงานไทยในอิสราเอล ประชุมนัดแรก ก็ยังเป็น "ท่านรอง ภูมิธรรม" ไหนจะงานหลักในกระทรวง ปัญหาของแพง ราคาอ้อย น้ำตาล อีรุงตุงนัง กองสุมอยู่รอบตัว เหมือนลองกอง ผลดก พวงยาว กิ่งใหญ่
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฉายา พลิกทินสู่ดาว ได้ยินแทบไม่เชื่อหู ใครเห็นเป็นต้องขยี้ตา เมื่อพลเมืองเต็มขั้น เคยรับเงินเดือนครู หลงไหลในดนตรีหมอลำ ผันตัวเข้าสู่แวดวงการเมือง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับกองทัพ นอกจากนามสกุล "คลังแสง" ขนาดเจ้าตัวยังไม่เคยนึกฝัน ว่าชีวิตนี้จะได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ด้วยบุคลิกสุภาพ ใจเย็น มืออ่อน และ ลีลาร้องรำน่าเอ็นดู จึงเข้าได้กับทหารทุกกรมกอง พลิกชีวิตลูกอีสาน สู่ดาวเจิดจรัสเฉิดฉาย ท่ามกลางเหล่าทัพได้อย่างแนบเนียน
พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ฉายา ทวี สอดไส้ ยิ่งกว่านอนมา สำหรับตำแหน่งเจ้ากระทรวงยุติธรรม เต็งหนึ่งชื่อเดียว แบบไร้คู่แข่งมาตั้งแต่ต้น สะท้อนความไว้วางใจจากนายใหญ่แค่ไหน คงไม่ต้องพูดถึง แม้จะไม่โดดเด่นในการบริหารราชการช่วง 3 เดือนแรก แต่กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะประเด็น เอื้อประโยชน์ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังเดินทางกลับมารับโทษ ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตำรวจ ทำให้ไม่ต้องนอนคุกแม้แต่คืนเดียว เผือกร้อนแค่ไหนคงไม่ต้องถาม มือพองแค่ไหนก็ต้องถือ กว่านายทักษิณจะออกจากคุก ต้องถูกจ้องถล่มอีกมากแค่ไหน คงไม่ต้องเดา
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ฉายา มาเฟียละเหี่ยใจ นักการเมืองชื่อดังแห่งจังหวัดอุทัยธานี ประวัติโลดโผน ภาพจำพัวพันวงการนักเลง ถูกประทับตรามาเฟีย ผู้คนยกสถานะให้เป็นผู้ทรงอิทธิพล แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธมาโดยตลอด พร้อมให้คำจำกัดความตัวเองไว้ว่า ความดีพอสมควร ความชั่วพอประมาณ สันดานพอคบได้ หน้าที่การงานในตำแหน่งรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญ เป็นโต้โผปราบปราม "ผู้มีอิทธิพล" จนฮือฮากันทั้งประเทศ แต่ยังไม่ทันได้สร้างผลงาน "ลูกเขย" ก็สร้างเรื่องก่อน ถูกเจ้าหน้าที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) จับกุม ในข้อหาเรียกรับสินบนจากผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการระบบประปาหมู่บ้านแบบบาดาล 2 โครงการ งานนี้เก้าอี้รัฐมนตรีร้อนระอุ เปิดแถลงข่าวภายใน 24 ชั่วโมง สั่ง "ลูกเขย" ยื่นใบลาออกทันที ไม่ต้องรอสอบสวน ลั่นเป็นลูกเขยชาดา สปิริตต้องมากกว่าคนอื่น
สำหรับ วาทะแห่งปี ได้แก่ ผมจะทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศเมื่อวันที่ 23 ส.ค.66 หลังพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยขอทำหน้าที่นายกฯ ที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเท ทำงานหนัก รับฟังเสียงของประชาชน นำความสามัคคีกลับคืนสู่คนในชาติ แต่ทำงานยังไม่ถึง 4 เดือน กลับขอลาพักผ่อนกับครอบครัวเป็นเวลา 4 วัน จนชาวโซเชียล อดแซวไม่ได้
หากถามนักข่าวหลายคนที่คุ้นเคย และตามติดภารกิจนายเศรษฐา ต่างรู้ซึ้งเป็นอย่างดี ถึงคำว่า "ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย" แทบทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ตามนายกฯ 3 เดือน เหมือน 3 ปี ให้สัมภาษณ์ทุกที่ ที่มีโอกาส ถึงไม่เห็นหน้าก็มาทางโซเชียล ค่ำคืนไม่พักไม่ผ่อน โพสต์ประเด็นร้อนทันใจ "ภูเก็ตก็แค่ปากซอย" นักข่าวพิสูจน์แล้ว นายกฯ ทำได้จริง พร้อมสะท้อนปัญหาหลักของนายกฯ ที่มักบอกว่าเป็นคนพูดตรง คือ การสื่อสาร หลายครั้งนำภัยมาสู่ตน เมื่อขึ้นศักราชใหม่แล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร คงต้องรอติดตามกันต่อไป
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวอวยพรเนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2567 ว่า ช่วงปีใหม่นี้ขอให้ทุกคนพักผ่อนกัน วันที่ 29 ธ.ค.66 ก็เป็นวันหยุดแล้ว ขอให้ทุกคนที่เดินทางกลับไปเยี่ยมญาติพี่น้องที่ต่างจังหวัด ขอให้ระมัดระวังในการขับขี่รถ อย่าดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จ คิดอะไรก็ขอให้สมดังที่คิด มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
นายเศรษฐา ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสื่อทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายา เซลส์แมนสแตนด์ "ชิน" ว่า ก็เข้าใจในทุกๆ ปี ก็มีการตั้งฉายา ซึ่งเป็นเรื่องของสีสัน ฉายาของนายกฯ ที่ตั้งเป็นเซลส์แมนสแตนด์ "ชิน คำว่าเซลส์แมนตนก็ทราบอยู่แล้ว เพราะประกาศตัวอยู่แล้ว ส่วนสแตนด์ "ชิน" เป็นคำควบกล้ำระหว่างภาษาไทยกับภาษาอังกฤษหรือเปล่า ซึ่งสื่อต้องอธิบายให้ฟัง ตนจึงจะตอบได้ ตนก็เข้าใจหลวมๆ ขอให้ถามได้เลย ไม่เป็นไร จะได้ตอบได้ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า คำว่าสแตนด์ "ชิน" ในคำบรรยายหมายความว่าอาจจะเป็นเงาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่รอการขึ้นมาเป็นนายกฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า อ๋อ! โอเค แต่วันนี้ตนก็เป็นนายกฯอยู่และทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และพยายามตั้งใจเอาให้ครบ 4 ปี ให้ได้ แต่สำคัญมากกว่านั้นไม่ใช่อยู่ไปให้ครบ 4 ปีแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนไม่ได้ดีขึ้น ส่วนสแตนด์ "ชิน" คือคอยสำหรับให้ครอบครัวไหนเข้ามา อันนี้พี่น้องประชาชนเป็นคนตัดสินมากกว่า ตรงนี้ก็ต้องคอยการเลือกตั้งครั้งต่อไป ก็เข้าใจไม่ได้คิดอะไร
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับฉายารัฐบาลแกงส้ม "ผลัก" รวม นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ค่อยเข้าใจคำว่าผลักสักเท่าไหร่ แต่หลักแกงส้มเป็นแกงที่มีรสชาติดี และตนก็รู้ว่าเรารวมกันหลายพรรคอยู่แล้ว และรสชาติแกงส้มก็มีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ใช่ไหม คิดว่ารัฐมนตรีทุกคนก็ครบเครื่อง พร้อมทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ตนมองเป็นลักษณะนั้นมากกว่า เมื่อถามย้ำว่า คำว่า "แกง" หมายถึงการแกล้ง ที่เป็นการพรรคก้าวไกลในช่วงต้นๆ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่พรรคเพื่อไทยเราก็โหวตให้ในตอนนั้น แต่ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้ และเราก็ไม่สามารถคอยได้ 9-10 เดือนตามที่เขาบอก ก็ต้องทำหน้าที่กันไป ประเทศคอยไม่ได้ ไม่ได้แกล้งแน่นอน และยืนยันตามที่ตนพูดมาตลอดตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งก็บอกอยู่แล้วว่าพร้อมสนับสนุนตรงนั้นหากสามารถทำได้
เมื่อถามว่า นายกฯจะรักษาบรรยากาศของพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้อยู่ครบกันไปถึง 4 ปี ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อยู่ที่ผลงานของเรามากกว่า และดูที่ความตั้งใจของรัฐมนตรีทุกท่าน ไม่ได้มองแยกว่าเป็นรัฐมนตรีจากพรรคไหนเป็นพรรคไหน เราดูผลงานเป็นหลักของทุกๆ รัฐมนตรี และเอาผลงานเป็นที่ตั้ง เมื่อถามว่า 314 เสียงแปลว่าจะไม่มีการปรับพรรคไหนมา หรือปรับออกใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่วันนี้เรามีความสุขอยู่แล้วตรงนี้ และเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกท่านจากทุกพรรคได้ทำงานอย่างเต็มที่ และตนก็ตระหนักดีพี่น้องสื่อมวลชนได้ให้ข้อคิดตลอดเวลา มีปัญหาตรงไหน ต้องแก้ไขตรงไหน และต้องปรับปรุงอย่างไร ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้รัฐมนตรีทุกคนทุกพรรคช่วยกันทำงานอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่การจะมีพรรคใหม่เข้ามาเพิ่มร่วมรัฐบาลก็พร้อมที่จะพิจารณาใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ได้คิด เชื่อว่า ณ วันนี้ 314 เสียง เรายังทำงานกันได้ดีอยู่ มีเรื่องหรือมีปัญหาอะไรเราก็คุยกันอย่างตรงไปตรงมาโดยเอาผลงานเป็นที่ตั้ง วันนี้เราโอเคอยู่แล้วตรงนี้ เมื่อถามย้ำว่า อนาคตถ้าจะมีเสียงเพิ่มก็ไม่ติดใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า วันนี้แฮปปี้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ถ้าได้มาเพิ่มอีก 25 เสียง จากพรรคประชาธิปัตย์จะทำให้ดีขึ้นหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ในแง่ของตัวเลขก็อาจจะดีขึ้น แต่ในแง่ของการเกลี่ยแบ่งกระทรวงกันใหม่มันก็ลำบากขึ้น มันไม่มีอะไรดีหมด ขอให้ยึดคำที่ตนพูดไว้ วันนี้ 314 เสียงพอแล้ว และรัฐมนตรีทุกท่านทำงานกันอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ผลงานก็เริ่มทยอยออกมาแล้ว เมื่อถามว่า ทำไมถึงยังมีกระแสข่าวการปรับครม.ออกมา นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ตนไม่ได้เป็นคนให้ข่าว ตนมีหน้าที่ตอบคำถามอย่างเดียว เมื่อถามว่า ในที่ประชุม ครม.มีการกำชับถึงการอภิปรายร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีการกำชับอะไรเป็นพิเศษ
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการตั้งฉายา "ทวีสอดไส้" ของสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลว่า เป็นมุมมองที่ต้องเคารพสื่อ ตนเป็นคนสาธารณะก็แล้วแต่มุมมอง และมองว่าไม่ได้เสียหายอะไร ขอให้สังคมต้องดูเรื่องผลงานมากกว่า เมื่อถามว่า การตั้งฉายาจะเป็นการสะท้อนการทำงานของรัฐบาลในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงตัวรัฐมนตรี อย่างไร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ฉายาสื่อเราต้องเคารพ และในแต่ละครั้งที่สื่อฯตั้งอาจจะมาจากมุมมองและประสบการณ์ ยืนยันว่าตนไม่ได้ติดใจ
ผู้สื่อข่าวถามถึงการรักษาตัวนอกโรงพยาบาลราชทัณฑ์ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่โรงพยาบาลตำรวจเกินกว่า 120 วัน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในกฎกระทรวงระบุว่า การไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ซึ่งมีก