นครปฐม เคลียร์พื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ศาลายา เปิดจุดจำหน่ายข้าวหอมมะลิตรา “โฉนดชุมชนคลองโยง” บริการถึงมือผู้บริโภค เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และบรรเทาความเดือดร้อนจากสภาวะราคาข้าวตกต่ำ
นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดโครงการ “จากยุ้งฉางสู่ผู้บริโภคเพื่อช่วยชาวนาไทย” เพื่อจำหน่ายข้าวสารคุณภาพดีจากเกษตรกร ส่งตรงถึงผู้บริโภค ซึ่งจังหวัดนครปฐม ร่วมกับ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครปฐม สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครปฐม สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. จังหวัดนครปฐม และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ศาลายา ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในจังหวัดนครปฐม อีกทั้งบรรเทาความเดือดร้อนจากสภาวะราคาข้าวตกต่ำ โดยมีนายประสาร อันโนนจารย์ สหกรณ์จังหวัดนครปฐม ร่วมกิจกรรม ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ศาลายา จังหวัดนครปฐม
นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า จังหวัดนครปฐม ได้กำหนดแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ตั้งแต่ช่วยเหลือให้เกษตรกรมีลานตากข้าวประจำหมู่บ้าน เพื่อให้สามารถนำข้าวที่เกี่ยวมาตากเพื่อลดความชื้น พร้อมได้ประสานโรงสีข้าวในการหักลบความชื้นในราคาพิเศษ และเตรียมจัดให้มีตลาดนัดข้าวเปลือก อีกทั้งได้ประสานให้รถเกี่ยวข้าวจากกรมการสัตว์ทหารบก และเอกชน ได้เข้าเกี่ยวข้าวให้เกษตรกรในราคาพิเศษอีกด้วย ในส่วนของจุดจำหน่ายข่าวสารที่ได้เปิดให้ประชาชนได้รับซื้อบริเวณหน้าพุทธมณฑล ถนนพุทธมณฑลสาย 4 เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา สามารถจำหน่ายข้าวสารให้กับประชาชนไปแล้วคิดเป็นมูลค่ากว่า 100,000 บาท นอกจากนี้ยังได้เตรียมเปิดจุดจำหน่ายข้าวสารเพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ที่บริเวณศาลากองอำนวยการองค์พระปฐมเจดีย์
นายประสาร อันโนนจารย์ สหกรณ์จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้นำข้าวหอมมะลิตรา “โฉนดชุมชนคลองโยง” มาจัดจำหน่าย ซึ่งข้าวหอมมะลิตรา “โฉนดชุมชนคลองโยง” เป็นข้าวหอมพื้นเมืองนครชัยศรี ที่มีต้นกำเนิดและผลิตในพื้นภาคกลางแบบเกษตรอินทรีย์ ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพ นำมาจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 60 บาท อีกทั้งยังมีข้าวไรซ์เบอร์รี่ดำ กิโลกรัมละ 60 บาท ข้าวไรซ์เบอร์รี่แดง กิโลกรัมละ 40 บาท ข้าวสินเหล็กแดง กิโลกรัมละ 40 บาท ข้าวหอมดำ กิโลกรัมละ 35 บาท ข้าวหอมมะลิ เมล็ดหัก กิโลกรัมละ 40 บาท และยังมีการจำหน่ายข้าวเหนียว 3 กิโลกรัม ในราคา 100 บาทอีกด้วย ซึ่งประชาชนสามารถเดินทางมาซื้อข้าวได้ที่บริเวณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ศาลายา โดยตั้งจุดจำหน่ายไว้จำนวน 2 จุด ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 20 มกราคม 2560
ขณะที่ เกษตรกรผู้จำหน่ายข้าว กล่าวว่า อยากให้มีการเปิดจุดจำหน่ายข้าวสารเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีละ 1 ครั้ง เพื่อจะได้มีช่องการจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งผู้บริโภคได้ซื้อข้าวสารที่มีคุณภาพ และราคายุติธรรม โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางอีกด้วย
นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า จังหวัดนครปฐม ได้กำหนดแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ตั้งแต่ช่วยเหลือให้เกษตรกรมีลานตากข้าวประจำหมู่บ้าน เพื่อให้สามารถนำข้าวที่เกี่ยวมาตากเพื่อลดความชื้น พร้อมได้ประสานโรงสีข้าวในการหักลบความชื้นในราคาพิเศษ และเตรียมจัดให้มีตลาดนัดข้าวเปลือก อีกทั้งได้ประสานให้รถเกี่ยวข้าวจากกรมการสัตว์ทหารบก และเอกชน ได้เข้าเกี่ยวข้าวให้เกษตรกรในราคาพิเศษอีกด้วย ในส่วนของจุดจำหน่ายข่าวสารที่ได้เปิดให้ประชาชนได้รับซื้อบริเวณหน้าพุทธมณฑล ถนนพุทธมณฑลสาย 4 เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา สามารถจำหน่ายข้าวสารให้กับประชาชนไปแล้วคิดเป็นมูลค่ากว่า 100,000 บาท นอกจากนี้ยังได้เตรียมเปิดจุดจำหน่ายข้าวสารเพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ที่บริเวณศาลากองอำนวยการองค์พระปฐมเจดีย์
นายประสาร อันโนนจารย์ สหกรณ์จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้นำข้าวหอมมะลิตรา “โฉนดชุมชนคลองโยง” มาจัดจำหน่าย ซึ่งข้าวหอมมะลิตรา “โฉนดชุมชนคลองโยง” เป็นข้าวหอมพื้นเมืองนครชัยศรี ที่มีต้นกำเนิดและผลิตในพื้นภาคกลางแบบเกษตรอินทรีย์ ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพ นำมาจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 60 บาท อีกทั้งยังมีข้าวไรซ์เบอร์รี่ดำ กิโลกรัมละ 60 บาท ข้าวไรซ์เบอร์รี่แดง กิโลกรัมละ 40 บาท ข้าวสินเหล็กแดง กิโลกรัมละ 40 บาท ข้าวหอมดำ กิโลกรัมละ 35 บาท ข้าวหอมมะลิ เมล็ดหัก กิโลกรัมละ 40 บาท และยังมีการจำหน่ายข้าวเหนียว 3 กิโลกรัม ในราคา 100 บาทอีกด้วย ซึ่งประชาชนสามารถเดินทางมาซื้อข้าวได้ที่บริเวณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ศาลายา โดยตั้งจุดจำหน่ายไว้จำนวน 2 จุด ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 20 มกราคม 2560
ขณะที่ เกษตรกรผู้จำหน่ายข้าว กล่าวว่า อยากให้มีการเปิดจุดจำหน่ายข้าวสารเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีละ 1 ครั้ง เพื่อจะได้มีช่องการจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งผู้บริโภคได้ซื้อข้าวสารที่มีคุณภาพ และราคายุติธรรม โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางอีกด้วย