"ปภ."เผยภาคใต้ฝนตกน้ำท่วมหนัก "นราธิวาส-ยะลา"อ่วม! 13 อำเภอ 58 ตำบล จมบาดาล บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 9,697 ครัวเรือน "รถไฟ" 14 ขบวนหยุดวิ่งทางขาด ระทึก! แม่น้ำสายหลัก 3 สาย สายบุรี-บางนรา-โก-ลก มีปริมาณน้ำล้นตลิ่ง ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือน บางสายน้ำล้นตลิ่งสูง 3.38 เมตร ด้าน"อุตุฯ" เตือนฝนถล่ม 6 จังหวัดใต้ฝั่งตะวันออก ระวังดินโคลนถล่ม 

 เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.66 นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงนี้พื้นที่ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส และยะลา รวม 13 อำเภอ 58 ตำบล บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 9,697 ครัวเรือน แยกเป็น 1.นราธิวาส น้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ แว้ง ,สุคิริน ,จะแนะ ,ระแงะ ,สุไหงปาดี ,ศรีสาคร ,เจาะไอร้อง,ยี่งอ และรือเสาะ รวม 44 ตำบล บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 9,558 ครัวเรือน โรงเรียนเสียหาย 1 แห่ง ระดับน้ำลดลง 2.ยะลา น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ ,ธารโต ,ยะหา ,บันนังสตา และรามัน รวม 14 ตำบล บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 139 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

 ปภ.โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหา เร่งระบายน้ำ และบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ "ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784" โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน "THAI DISASTER ALERT"

 รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า จากผลพวงของสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตก ส่งผลทำให้แม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำบางนราและแม่น้ำโก-ลก มีปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมทำให้แม่น้ำทั้ง 3 สายล้นตลิ่ง และได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน โดยแม่น้ำสายบุรีมีปริมาณล้นตลิ่งสูง 3.38 เมตร แม่น้ำบางนรามีปริมาณล้นตลิ่งสูง 1.88 เมตร และแม่น้ำโก-ลกมีปริมาณล้นตลิ่งสูง 0.79 เมตร

 นอกจากนี้ ผลพวงจากสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ยังส่งผลทำให้ขบวนรถไฟที่วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จรดปลายทางสถานีรถไฟต่างๆ ทั้งขาขึ้นและขาล่องจำนวนทั้งสิ้น 14 ขบวน ต้องหยุดให้บริการประชาชนเป็นการฉุกเฉิน เนื่องจากเส้นทางขาดที่บ้านกำปงปาเร๊ะ ม.8 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกลากกัดเสาะจนตอหม้อของสะพานรถไฟทรุดตัว ส่วนผู้ใช้บริการรถด่วน รถเร็ว ขบวนสุไหงโก-ลก จรดปลายทางสถานีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ จะให้บริการต้นทางปลายทางจากสถานีรถไฟยะลา และขนถ่ายผู้โดยสารโดยรถยนต์ สำหรับรถไฟขบวนท้องถิ่น จะเริ่มวิ่งต้นและสิ้นสุดที่สถานีรถไฟยะลาเท่านั้น

 ขณะที่ ประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฉบับที่ 14 (93/2566) เรื่องคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก (ช่วงวันที่ 25-26 ธ.ค.) บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน ที่ปกคลุมประเทศไทย และทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงได้เคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณเกาะสุมาตรา และทะเลอันดามันตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 25-26 ธ.ค.นี้ บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมาก

 โดยฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณ จ.นครศรีธรรมราช และพัทลุง ฝนหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ บริเวณ จ.สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม

 ขณะที่ คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งอ่าวไทยระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 25-26 ธ.ค. นี้ และขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกอย่างใกล้ชิด 017