บุรีรัมย์ จัดจัดกิจกรรม “ปิดทองเบิกฟ้า สักการะบูชา มหาราชรัชกาลที่ 1” โดยการปิดทองคำเปลวฉัตร 9 ชั้น จำนวน 364 ต้น รอบบริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือวงเวียน ร.1 เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และเพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเองในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่จะถึงนี้
วันที่ 24 ธ.ค.66 เวลา 18.00 น.นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชน นักเรียน นักศึกษา และนักฟุตบอลสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวงและปิดทองฉัตร 9 ชั้น จำนวน 364 ต้น ที่บริเวณรอบพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (วงเวียนรัชกาลที่ 1) ในกิจกรรมปิดทองเบิกฟ้า สักการะบูชา มหาราชรัชกาลที่ 1
ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับหลายภาคส่วนจัดขึ้น เพื่อเป็นการรวมพลังจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชน ในการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และแสดงพลังความรักความสามัคคีของประชาชนจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งกิจกรรมจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2567
โดยในวันแรกของพิธี ได้มีการปิดทองคำเปลว ลงในบริเวณโคนเสาต้นฉัตร จำนวน 8 ต้น ที่อยู่ประจำทิศทั้ง 8 ทิศ เพื่อเป็นการนำร่อง และนำยอดฉัตรทั้งหมด 364 ยอด ลงมาไว้ที่บริเวณด้านล่าง เพื่อไว้ให้ประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ และนักท่องเที่ยว ได้มาร่วมกันปิดทองคำเปลวทั้งที่ยอดฉัตร และโคนเสาของฉัตรทั้ง 364 ต้น เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง รวมทั้งครอบครัว ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 ที่จะถึงนี้ด้วย
ทั้งนี้ จะมีการเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ร่วมกิจกรรมปิดทองคำเปลวลงบนยอดฉัตร และโคนเสาของฐานฉัตร ทั้ง 364 ต้น ได้ตั้งแต่ช่วงเวลา 09.00- 22.00 น. ของทุกวันไปจนถึงคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2566 จากนั้นในวันที่ 1 มกราคม 2567 ช่วงเวลา 12.00 น. จะมีการประกอบพิธียกยอดฉัตรทั้ง 364 ยอด ที่ได้มีการยกลงมาไว้ให้ปิดทองคำเปลว จะนำขึ้นไปติดตั้งไว้บนยอดฉัตรดังเดิมต่อไป เพื่อความเป็นสิริมงคลในการต้อนรับปีศักราชใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับชาว จ.บุรีรัมย์ ต่างเรียกตัวเองเป็นลูกหลานรัชกาลที่ 1 เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เคยยกทัพไปปราบกบฏเขมร สมัยนั้นเรียกว่า ‘เมืองแปะ’ ส่งผลให้เกิดชุมชนและมีผู้คนเข้ามาพักอาศัยทำมาหากิน จนกลายเป็น จ.บุรีรัมย์ ในปัจจุบัน
สำหรับพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือที่เรียกว่าวงเวียนรัชกาลที่ 1 แห่งนี้ นายชัย ชิดชอบ สมัยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้มีส่วนร่วมกับ จ.บุรีรัมย์ และ กรมศิลปากร นำเสนอโครงการให้รัฐบาลจัดสร้าง ในปี พ.ศ.2539 เพื่อเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 1 ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ผู้ทรงก่อตั้งเมืองบุรีรัมย์ โดยพระบรมราชานุสาวรีย์ นั้นมีขนาดเท่าครึ่งของพระองค์จริง หล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์ ฉลองพระองค์แบบนักรบตามขัตติยราชประเพณีโบราณ ประทับบนช้างศึก หันหน้าเข้าสู่ตัวเมืองบุรีรัมย์ เพื่อมาพัฒนาก่อร่างสร้างเมือง โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในรัชกาลปัจจุบัน ทรงเป็นองค์ประธานเปิด พระบรมราชานุสาวรีย์ ในปี พ.ศ.2542 เมื่อครั้งดำรงพระยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร