"รมว.ธรรมนัส" เยือนเชียงใหม่ ชวนเกษตรกร “ไถกลบตอซัง สร้างดินยั่งยืน ฟื้นสิ่งแวดล้อม” พร้อมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการอุโมงค์ผันน้ำเขื่อนแม่กวง
วันที่ 23 ธ.ค.66 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดกิจกรรม “ไถกลบตอซัง สร้างดินยั่งยืน ฟื้นสิ่งแวดล้อม” ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พร้อมมอบเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยให้เกษตรกร โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน และผู้แทนจากหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนเกษตรกรในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรม ณ บ้านแม่กุ้งบก ตำบลสันกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
จากนั้น รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ เดินทางต่อไปยังเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ โดยมี นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน นายจิตะพล รอดพลอย ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทาน ขนาดใหญ่ที่ 1 และผู้เกี่ยวข้องร่วมบรรยายสรุปการดำเนินงาน
ทั้งนี้ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา ความจุ 263 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่ชลประทาน 175,000 ไร่ เกิดการขาดแคลนน้ำเฉลี่ยปีละประมาณ 137 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากมีการใช้น้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และลําพูนสูงกว่าปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างฯ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรงในอนาคต กรมชลประทาน จึงได้ดําเนินการโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ําเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ด้วยการก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำความยาวประมาณ 49 กิโลเมตร ประกอบด้วย 1.อุโมงค์ส่งน้ำแม่แตง-แม่งัด 2. อุโมงค์ส่งน้ำแม่งัด-แม่กวง ปัจจุบันมีผลงานก่อสร้างสะสมทั้งโครงการแล้วกว่าร้อยละ 80 ซึ่งเมื่อดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการจะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้อ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธาราได้เฉลี่ยปีละประมาณ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถสร้างความมั่นคงทางด้านน้ำให้แก่พื้นที่ชลประทาน 175,000 ไร่ ทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกช่วงฤดูแล้ง ในพื้นที่โครงการส่งน้ําและบํารุงรักษาแม่แตงได้อีกกว่า 14,550 ไร่ และเพียงพอสนับสนุนน้ําเพื่อการอุปโภค - บริโภค การท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาและลดความเสียหายจากปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้อีกด้วย