วันที่ 23 ธค .66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บรืเวณกลางทุ่งนาบ้านแม่กุ้งบก ต.สันกลาง อ.สันป่าตอง. จ.เชียงใหม่ จัดขึ้นโดยกรมพัฒนาโดยจัดถ่ายทอดสดเป็นศูนย์กลางไปยัง 55 จังหวัดทั่วประเทศพร้อมกัน โดยมีนายนิรัตน์ พงษ์สิทํถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวต้อนรับมีเกษตรกรชาวเชียงใหม่ร่วมเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ได้มีการรณรงค์สาธิตทดแทนการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร สาธิตการเกี่ยวไถกลบตอซัง งดเผาฟาง ลดฝุ่น PM 2.5 การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการนำร่องการสาธิตเทคโนโลยี การจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรทดแทนการเผา จัดทำแปลงสาธิตการบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อทดแทนการเผา โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีการ จัดการเศษวัสดุการเกษตรทดแทนการเผาที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ และเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนเกษตรเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตรนับว่าเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานในสังกัดระดับพื้นที่ ได้ดำเนินการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนเกษตรเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตร

สร้างความรู้ความเข้าใจแก่เกษตร เพื่อสร้างเป็นวิทยากรด้านการทำการเกษตรปลอดการเผา รวมทั้งสร้างชุมชนเกษตรปลอดการเผาต้นแบบ ตลอดจนได้มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีในพื้นที่ทั้งภาครัฐและเอกชน จัดงานรณรงค์ในท้องถิ่น ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ช่วงวิกฤตหมอกควัน รวมถึงการจัดทำแปลงนำร่องสาธิตเทคโนโลยีการจัดการเศษวัสดุทดแทนการเผา เพื่อให้เกษตรกรจะมี ความเข้าใจและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการเผาในพื้นที่เกษตร และสามารถนำความรู้นี้ ถ่ายทอดไปสู่ประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี และการส่งเสริมให้เกษตรกรเตรียมพื้นที่เพาะปลูก โดยวิธีการไถกลบตอซังทดแทนการเผา ส่งเสริมการนำเศษวัสดุทางการเกษตรมาแปรสภาพให้เกิดประโยชน์ เช่น การทำปุ๋ยหมัก การปลูกเห็ดฟาง การผลิตอาหารสัตว์ การทำถ่านอัดแท่งหรือของประดับ ปัจจุบันยังมีจุดความร้อนที่เกิดจากการเผาอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจุดความร้อนเล็กๆเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ เกิดมลพิษทางอากาศสะสมทำให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้นเป็นผลเสียกับสุขภาพของประชาชน

หากเกษตรกรลดการเผาแล้วนำเทคโนโลยีมาใช้สร้างมูลค่าเพิ่มกับเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร จะเกิดเป็นรายได้แก่เกษตรกรอีกช่องทางหนึ่ง ปลูกจิตสำนึกในกลุ่ม ในชุมชน มีข้อตกลงร่วมกันในการจัดการการเผาในพื้นที่เกษตร ขอความร่วมมือประชาชนหากพบการเผาเศษวัสดุในพื้นที่ การเกษตร ให้ดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งชุดปฏิบัติการ 3 มาตรการ “เจอ จับ ปรับ” เจอเป็นดับ จับมือคุย ปรับเปลี่ยนไม่เผา แจ้งเหตุไปยังสายด่วนฉุกเฉิน 1784 สำหรับทุกพื้นที่ หรือ 1362 สำหรับพื้นที่ป่า ทั้ง 2 เบอร์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเกษตรกรหยุดเผาในพื้นที่การเกษตรแล้วจะได้ 5 ดี คือ อากาศดี สุขภาพดี เศรษฐกิจดี สิ่งแวดล้อมดี และยังได้ปุ๋ยที่ดีจากธรรมชาติ มุ่งเน้นให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งมีคุณภาพชีวิตที่ดี ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าประเทศไทยประสบปัญหามลพิษทางอากาศสาเหตุหนึ่งที่เกิดจากการเผาพื้นที่ป่าไม้และวัสดุทางการเกษตร เพื่อเตรียมแปลงปลูกพืชในฤดูถัดไปซึ่งเป็นการสร้างมลพิษทางอากาศนำไปสู่ภาวะโลกร้อนพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมสูญเสียอินทรีย์วัตถุและธาตุอาหารในดินทำลายโครงสร้างดินที่เหมาะสมและทำลายห่วงโซ่อาหาร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน PM 2.5 และให้บรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็น 0 ภายในปีพ.ศ 2613 ตามที่ได้ให้คำมั่นไว้ในเวทีโลก การจัดงานในวันนี้เป็นนิมิตรหมายที่ดีที่สุดทุกภาคส่วน ได้ร่วมมือกันเพื่อหยุดการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม สร้างความตระหนักรู้ ถึงปัญหาจากการเผาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรดิน จึงขอให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจ ไถกลบตอซังสร้างดินยั่งยืน ฟื้นสิ่งแวดล้อม เพื่อนำมาซึ่งความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยต่อไป