กรอบบาทสัปดาห์หน้า 34.20-34.90/SET แนวต้าน 1,450 จุด จับตาตัวเลขส่งออกไทย-ทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาทรอบสัปดาห์ เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงแรกตามทิศทางสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย (รวมเงินเยน หลัง BOJ มีมติคงนโยบายการเงินไว้ตามเดิม และไม่ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับจังหวะการถอยออกจากนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างมาก) ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนจากสัญญาณของเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งสะท้อนว่า จังหวะการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในปี 2567 ไม่น่าจะเกิดขึ้นเร็ว นอกจากนี้การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับสัญญาณขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นช่วงปลายสัปดาห์ตามจังหวะการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกและการคาดการณ์เกี่ยวกับโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในปี 2567 ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยลบจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2566 ของสหรัฐฯ ซึ่งถูกปรับทบทวนลงมาที่ขยายตัว 4.9% ต่อปี
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 25-28 ธ.ค. 2566 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.20-34.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ตัวเลขการส่งออกและเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยเดือนพ.ย. ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. และยอดขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ ตลอดจนกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ของจีน
ด้านความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย ดัชนีหุ้นไทยกลับมายืนเหนือ 1,400 จุดได้อีกครั้ง ทั้งนี้หุ้นไทยขยับขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ โดยยังคงมีแรงหนุนต่อเนื่องจากการส่งสัญญาณจบวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น และโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้าของเฟด นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคปในกลุ่มเทคโนโลยี (หลังการประกาศหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET50 และ SET100) และแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ อย่างไรก็ดี หุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบในช่วงปลายสัปดาห์หลังจากตอบรับปัจจัยบวกไปพอสมคารแล้ว ทั้งนี้สัปดาห์นี้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงสวนทางภาพรวม เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ
สัปดาห์ที่ 25-28 ธ.ค.2566 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,390 และ 1,370 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,430 และ 1,450 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ การทำ Window Dressing ช่วงสิ้นปี สถานการณ์ในทะเลแดง ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ รวมถึงกำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ของจีน
#ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #ค่าเงินบาท #ดอกเบี้ย