วันที่ 21 ธันวาคม 2566 นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานในงานแถลงข่าวการจัดงาน “Amazing Thailand Countdown 2024” ประเทศไทย พร้อมด้วย นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด และนายกันตภณ ผาณิตรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มงานการตลาดสาขาและบริหารงานลูกค้าบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมในงาน เพื่อชิญชวนสัมผัสความวิจิตรตระการตาแสงแรกแห่งอรุณรุ่งของกรุงสยามที่จะส่งมอบความสุขต้อนรับวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2567 ในพื้นที่หลักสวนนาคราภิรมย์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งปีนี้ ททท. ยังได้ร่วมจัดกิจกรรมในจังหวัดนครราชสีมา และสนับสนุนการจัดงานในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ คาดว่าจะสร้างรายได้หมุนเวียนรวม 5.4 หมื่นล้านบาท
โดย นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ททท. เตรียมต้อนรับศักราชใหม่ จัดงาน “Amazing Thailand Countdown 2024” ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นบิ๊กอีเวนต์สำคัญภายใต้โครงการ Thailand Winter Festivals ของรัฐบาล เพื่อเพิ่มแรงส่งกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงปลายปี 2566 ทั้งสอดคล้องกับนโยบาย Soft Power ที่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กรุงเทพมหานคร เป็นแลนด์มาร์กและ Global Countdown Destination จุดเคาท์ดาวน์ระดับโลกที่นักท่องเที่ยวต้องนึกถึงและมาเยือนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้จะมีกิจกรรมเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2567 ที่ ททท. ดำเนินการจัดกิจกรรมและร่วมจัดกิจกรรมแต่ละพื้นที่ มีเอกลักษณ์และกิจกรรมในการจัดงานที่แตกต่างกันไป ดังนี้ 1. งาน “Amazing Thailand Countdown 2024 วิจิตร อรุณ” ในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 - 1 มกราคม 2567 ที่สวนนาคราภิรมย์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในเดือนธันวาคม 2566 ต่อเนื่องจากงาน VIJIT CHAO PHRAYA 2023 โดย ททท. เนรมิตพื้นที่สวนนาคราภิรมย์ ให้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด“วิจิตร อรุณ” ความวิจิตรตระการตาของแสงแรกแห่งอรุณรุ่งของกรุงสยามที่จะส่งมอบความสุขในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2567
โดยจะสร้างสีสันบรรยากาศยามค่ำคืนให้กับสถานที่สำคัญที่มีความสวยงามริมแม่น้ำเจ้าพระยา แลนด์มาร์กของประเทศไทยอย่าง พระปรางค์ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ด้วยนวัตกรรมแสง สี เสียง และสื่อประสมที่ทันสมัย ควบคู่กับการผสมผสานวัฒนธรรม เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวอันอัศจรรย์ใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยว
พร้อมเติมเต็มบรรยากาศแห่งความสุขและสนุกส่งท้ายปีด้วยการแสดงทางวัฒนธรรมไทยและการแสดงร่วมสมัยประยุกต์ ไม่ว่าจะเป็น การแสดงโขน การแสดงจากคณะโจหลุยส์ การบรรเลงเพลงออเครสตร้า จากวง Chao Phraya Symphony Orchestra พร้อมขับกล่อมบรรยากาศด้วยบทเพลงจากศิลปิน
รวมถึงการแสดงจากศิลปินชื่อดัง ได้แก่ น้อย - กฤษดา สุโกศล แคลปป์, นัท มีเรีย, เก่ง ธชย, ติวเตอร์ - กรภัทร์ ลำน้อย, เข้ม - หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล ก่อนจะปิดท้ายกับ กิจกรรมไฮไลต์ร่วมนับถอยหลังก้าวเข้าสู่ปีใหม่ไปพร้อมกับการแสดงพลุที่สวยงามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยายาวต่อเนื่องกว่า 7 นาที โดยแบ่งเป็น 9 องก์ ประกอบด้วย อรุณรุ่ง / อรุณแห่งศรัทธา / รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย / ดินแดนแห่งความสุข / สยามเมืองยิ้ม / รุ่งอรุณแห่งการท่องเที่ยว / แสงอรุณแห่งอิสระเสรี / เจริญ รุ่งโรจน์ และ แสงอรุณแห่งความเชื่อ ศรัทธา ก้าวหน้า รอยยิ้มสะท้อนสัญญาณแห่งการเริ่มต้นปีศักราชและส่งมอบความสุขต้อนรับปีใหม่ 2567
ส่วน 2. งาน Korat Winter Festival & Countdown 2024 ระหว่างวันที่ 22 ธันวาคม 2566 -วันที่ 2 มกราคม 2567 บริเวณสนามหน้าศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา เป็นการร่วมเฉลิมฉลองเมืองนครราชสีมา ครบรอบ 555 ปี ในรูปแบบ “งานมหกรรมสวนสนุกนานาชาติ” ภายในงานพบกับสวนสนุกขนาดใหญ่ เสิร์ฟความสุขต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2566 - 14 มกราคม 2567 จากนั้นห้ามพลาดแวะเช็กอินจุดแลนด์มาร์กต้นคริสมาสต์ตกแต่งประดับไฟสวยงาม และสวนดอกไม้ โดยฟลอร่าพาร์ค บริเวณด้านหน้าอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 หรือชิมช้อปผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ของเมืองโคราชก็มีมาให้เลือกอย่างจุใจ
นอกจากนี้ ททท. ยังร่วมจัดกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การแสดงของศิลปินที่มีชื่อเสียงบนเวที ในวันที่ 29-31 ธันวาคม 2566 การตกแต่งประดับไฟสวยงามบริเวณหอนาฬิกาและในคูเมืองบริเวณที่จัดงาน ก่อนจะปิดท้ายด้วยกิจกรรมไฮไลต์ร่วมจุดพลุเฉลิมฉลองนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2567 ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2566
ด้าน นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ICONSIAM พร้อมแล้วกับปรากฏการณ์เคานต์ดาวน์ระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยายิ่งใหญ่ส่งท้ายปี “Amazing Thailand Countdown 2024” ภายใต้ความร่วมมือของ ททท. กรุงเทพมหานคร พันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไว้ครบทุกความเป็นที่สุดในทุกด้านกับการฉลองเข้าสู่ศักราชใหม่ต่อเนื่อง 3 วัน 3 คืน ตั้งแต่ 29 -31 ธันวาคม 2566 ภายใต้แนวคิด “The Unrivaled Phenomenon of SIAM” มหาปรากฎการณ์เปิดศักราชใหม่แห่งสยาม รวมสุดยอดศิลปินบนเวที 360 องศา สุดอลังการริมแม่น้ำ กับเซอร์ไพร์สของศิลปิน KPOP วง GOT7 นำโดย แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล, มาร์ค ต้วน และคิม ยูคยอม และ 13 ศิลปินท็อปลิสต์ของเมืองไทย อาทิ BameeKT, PERSES, Jeff Satur, Proxie, 4EVE, ATLAS, Three Man Down, ซี-นุนิว, พีพี-กฤษฏ์, บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ และ DJ HANKY ก่อนจะสะกดทุกสายตาโลกกับการแสดงพลุรักษ์โลก 50,000 ดอก ภายใต้แนวคิด “The Unrivaled Phenomenon of SIAM” ความยาว 9 นาที รวมระยะทาง 1,400 เมตร ตลอดคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยา และการแสดงโดรน 3D Drone Celebration Show กว่า 2,000 ลำ ประกอบบทเพลง ภายใต้แนวคิด “The Revolutionary Phenomenon of SIAM” มหาปรากฏการณ์ความรุ่งโรจน์จากผืนน้ำสู่ฟากฟ้า บอกเล่ามหัศจรรย์เรื่องราวความรุ่งโรจน์ของ ICONSIAM
ส่วน นายกันตภณ ผาณิตรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มงานการตลาดสาขาและบริหารงานลูกค้า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) เตรียมสร้างปรากฎการณ์ความสุขส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ กับงาน Centralworld Bangkok Countdown 2024 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชดำริ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Amazing Thailand Countdown 2024 และ Thailand Winter Festivals ปีนี้จัดเต็มความมันส์ด้วยโปรดักชั่นระดับโลก ทั้งเวที แสง เสียง คมชัดทุกองศา โดยมีกิจกรรมไฮไลท์การแสดงจากศิลปินที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 65 ชีวิต นำทัพด้วย บิวกิ้น พีพี กฤษณ์ อิงค์ วรันธร นนท์ ธนนท์ โบกี้ไลอ้อน และ Finale Show ของศิลปินระดับโลกอย่าง YOUNGJAE GOT7 และ PATRICK ก่อนจะส่งท้ายด้วยการแสดงพลุสุดล้ำ Digital Firework 180 องศาผสมผสานกับพลุจริง เพื่อส่งเสริมให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์กลายเป็น Time Square of Asia แลนด์มาร์กแห่งงาน Entertainment Countdown ที่ดีที่สุดในระดับโลก
นอกจากนี้ ททท. ยังมีกิจกรรมที่ ททท. ให้การสนับสนุนการจัดงานเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2567 ในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศไทย เริ่มต้นที่ ภาคเหนือ เช่น งาน Amazing Chiang Mai Countdown 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา จังหวัดเชียงใหม่, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น งาน AWAKEN KHONKAEN COUNTDOWN 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566-1 มกราคม 2567 ณ สวนประตูเมืองและบริเวณถนนศรีจันทร์ จังหวัดขอนแก่น, งาน “นครพนม Winter Festival ตอน หนาวลม ชมโขง” วันที่ 25 ธันวาคม 2566-1 มกราคม 2567 ณ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม, งาน “หอโหวด๑๐๑ ROI ET TOWER” วันที่ 29 ธันวาคม 2566-วันที่ 1 มกราคม 2567 ณ หอโหวด 101 จังหวัดร้อยเอ็ด, ภาคกลาง งาน Countdown Suphanburi 2024 Happy Love Happy Luck วันที่ 29-31 ธันวาคม 2566 ณ สวนเฉลิมภัทรราชินีหอคอยบรรหารแจ่มใส จังหวัดสุพรรณบุรี, งาน Hua Hin Countdown 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
รวมไปถึงงาน Ratchaprasong New Year Lighting 2024 วันที่ 5 ธันวาคม 2566-วันที่ 5 มกราคม 2567 ณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ถนนราชดำริและถนนเพลินจิต กรุงเทพมหานคร, งาน Light Up Christmas Tree 2024 วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566-วันที่ 2 มกราคม 2567 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร, งาน Amazing Thailand Countdown 2024 วันที่ 29-31 ธันวาคม 2566 ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร, งาน Centralworld Bangkok Countdown 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร และ ภาคใต้ งาน Discover Phuket Countdown 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566-วันที่ 1 มกราคม 2567 ณ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต, งาน HATYAI COUNTDOWN 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566-วันที่ 1 มกราคม 2567 ณ ถนนศุภสารรังสรรค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นต้น
ทั้งนี้ ททท. เชื่อมั่นว่าการจัดงานฯ ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยว ช่วยขยายเวลาการท่องเที่ยวในช่วงกลางคืน และเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องในพื้นที่ของการจัดกิจกรรม เช่น โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร และผู้ให้บริการล่องเรือรับประทานอาหาร เป็นต้น
โดยคาดว่าในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ปี 2567 การท่องเที่ยวภายในประเทศจะคึกคักมาก เนื่องจากเป็นช่วงที่คนไทยเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาเพื่อเยี่ยมญาติพี่น้องและถือโอกาสเดินทางท่องเที่ยวไปพร้อมกัน ส่งผลให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศประมาณ 3.75 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้ 12,700 ล้านบาท ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 1.18 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้ 41,700 ล้านบาท ส่งผลให้มีรายได้รวมทางการท่องเที่ยวทั้งสิ้น 54,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 44 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา