เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.66 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.ชัชชัย วงค์สุนะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร พ.ต.อ.ธานินทร์ อินทพรต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร พ.ต.อ.กิตเตชิษฐ์ บำรุง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร พ.ต.อ.พิชญ์วุฒิ โพธิ์จันทร์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรนิคมคำสร้อย ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ประดิษฐ์ วงชารี สวป.สภ.นิคมคำสร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นิคมคำสร้อย ทำการตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด บริเวณจุดตรวจโชคชัย ต.โชคชัย อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร
ขณะตั้งจุดตรวจได้มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ขับขี่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จึงได้เรียกทำการตรวจค้น และได้ทำการตรวจปัสสาวะ บุคคลที่อยู่ภายในรถ โดยมีนายยุทธนา (นามสมมุติ) (คนขับ) และมี นายสารัตน์ (นามสมมุติ) นายธนบดี (นามสมมุติ) เป็นผู้นั่งโดยสารมากับรถคนดังกล่าว ลักษณะท่าทางมีพิรุธ จึงได้ทำการเรียกตรวจค้นขณะที่ทำการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกต เห็นนายสารัตน์ (นามสมมุติ) คุยโทรศัพท์จึงได้ตรวจสอบโทรศัพท์พบว่ามีการพูดคุยกันกับนายวริทธิ์ธร (นามสมมุติ) ทาง แมสเซนเจอร์ บอกว่าตอนนี้จอดรออยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ สาขาเลิงนกทา ซึ่งเป็นรถที่ใช้ขนยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปที่ร้านสะดวกซื้อ สาขาเลิงนกทา และพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียน นครพนม และพบนายวริทธิ์ธร เดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นภายในรถยนต์เก๋ง พบห่อพลาสติกสีดำ พันด้วยเทปกาว จำนวน 3 ห่อ
สอบถาม นายวริทธิ์ธร ให้การว่าเป็นกระสอบบรรจุยาบ้า เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดและได้ให้ พฐ.เก็บลายนิ้วมือและหลักฐานอื่นๆ และทำการตรวจนับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวน 3 กระสอบ ตรวจนับได้ประมาณ 1,200,000 เม็ด และสามรถจับผู้ร่วมขบวนการได้อีก 2 คน คือ นายธนาธิป (นามสมมุติ) น.ส.สุกัญญา (นามสมมุติ) โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)โดยการมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยกระทำการเพื่อการค้าและเป็นการก่อให้เกิดการ แพร่กระจายในกลุ่มประชาชน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหา พร้อมยาบ้าและรถยนต์ของกลาง ซึ่งเป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีขาว ทะเบียน นครพนม โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง ทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.นิคมคำสร้อย เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และขยายผลจับเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ต่อไป
