จากกรณีวันนี้ (20 ธ.ค.66)  ศาลจังหวัดมุกดาหารอ่านคำพิพากษาในคดี ที่พนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหารเป็นโจทก์ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา โจทก์ร่วมที่ 1 นายอนามัย วงศ์ศรีชา โจทก์ร่วมที่ 2 ยื่นฟ้อง นายไชย์พล หรือ พล  จำเลยที่ 1 และนางสาวสมพร หรือ แต๋น  จำเลยที่ 2 โดยมีโจทก์ร่วมทั้งสองยื่นคำร้องขอเรียกค่าสินไหมทดแทนทางแพ่ง  โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้ตัดสิน สั่งจำคุก  นายไชย์พล   2 ข้อหา ในคดีการเสียชีวิตของ "น้องชมพู่" ฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันสมควร

ทั้งนี้ในคำพิพากษาประการสุดท้าย ระบุว่า  ภายหลังเจ้าพนักงานตำรวจตั้งข้อสงสัยว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนร้าย จึงมีการเข้าตรวจค้นรถยนต์ จำเลยที่ 1 พบเส้นผม 16 เส้น และวัตถุพยานอื่น โดยผลการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ประกอบกับคำเบิกความของพยานผู้เชี่ยวชาญปรากฏว่า เส้นผม 1 เส้น ที่ตกอยู่ในรถยนต์จำเลยที่ 1 มีองศาของรอยตัด หน้าตัด และพื้นผิวด้านข้าง ตรงกันกับเส้นผมผู้ตาย 2 เส้น ซึ่งตรวจเก็บได้จากบริเวณที่พบศพผู้ตาย เส้นผมทั้ง 3 เส้น ดังกล่าว จึงถูกตัดในคราวเดียวกันด้วยวัตถุของแข็งมีคมชนิดเดียวกัน เชื่อว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใช้ของแข็งมีคมตัดเส้นผมผู้ตาย แต่ด้วยเหตุที่เส้นผมมีขนาดเล็กมาก จำเลยที่ 1 จึงไม่สังเกตว่ามีเส้นผมผู้ตายเส้นหนึ่งตกอยู่ในรถยนต์ของตน

ล่าสุด เพจ Drama-addict  โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า "ท่าไม้ตายของตำรวจที่เก็บซ่อนไว้ ไม่เผยให้สื่อรู้  ที่แท้จริงคือผลการตรวจเส้นผมนั่นเอง  ซึ่งตำรวจพบเส้นผมที่ถูกตัดแบบผิดธรรมชาติในที่เกิดเหตุที่พบร่างน้องชมพู่  แล้วพอเอาไปตรวจกับเส้นผมที่เจอในรถลุงพล พบว่าเป็นเส้นผมที่เกิดจากการถูกตัดด้วยของมีคมชนิดเดียวกัน รอยตัดสัมพันธ์กัน  .... ปล อันนี้ภาพจากเน็ทไม่เกี่ยวกับคดีนี้นะจ๊ะ"

 

 

 

ขอบคุณ เพจ Drama-addict  / ภาพ - เฟซบุ๊ก สาวิตรี วงศ์ศรีชา