วันที่ 20 ธ.ค.2566 เวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา ว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร กล่าวถึงกรณีที่ เพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” ออกมาเปิดเผยประเด็นเรื่องแม่บ้านถ่ายภาพหน้าห้องทำงานน.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคก้าวไกล แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นแม่บ้านถูกกดดันให้ออกจากงานว่า ข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นประเด็นในพื้นที่ โดยหลักการแม่บ้านแต่ละคนจะรับผิดชอบอยู่ในพื้นที่ของตน จะไม่ข้ามพื้นที่ไป ซึ่งเป็นมาตรการที่สำนักรักษาความปลอดภัย สำนักเลขาธิการสภาฯ กำหนดไว้และแจ้งมาตรการนี้ให้แม่บ้านรับทราบทุกคน ถือเป็นข้อตกลงร่วมกัน จริงๆมีกรณีคล้ายแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วเช่นกัน พอกรณีนี้เกิดขึ้นเราก็ทราบว่าแม่บ้านคนนี้อยู่ในพื้นที่ของตน แต่ไปถ่ายห้องของสส.จึงแจ้งไปทางบริษัทขอให้ย้ายแม่บ้านคนนี้ออกจากพื้นที่ก่อน บริษัทจึงได้ย้ายแม่บ้านไปอยู่ชั้นอื่น

เลขาฯสภาฯ กล่าวต่อว่า ทางสำนักรักษาความปลอดภัยฯ จึงได้พิจารณาว่ากรณีดังกล่าวเข้าเกณฑ์ค่อนข้างร้ายแรง เพราะเป็นมาตรการที่เราต้องให้ความเคารพ ในการดูแลพื้นที่ เราเพียงแต่บอกให้ทางบริษัทพิจารณาว่าจะให้แม่บ้านย้ายจากหน่วยงานไปอยู่หน่วยงานอื่นแทน เพราะบริษัทรับทำความสะอาดหลายหน่วยงาน แต่ไม่ได้ไล่ออก มาทราบภายหลังจากนั้นว่าแม่บ้านได้ยื่นใบลาออกกับบริษัทต้นสังกัด แต่บริษัทฯก็ได้ยับยั้งใบลาออกอยู่ ยืนยันว่าสำนักเลขาฯสภาฯไม่ได้ไล่เขาออก

เมื่อถามว่า ทางสภาฯ ดำเนินการเช่นนี้เป็นไปตามข้อร้องเรียน หรือพิจารณาดำเนินการอย่างไร เลขาฯสภาฯ กล่าวว่า เป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยในการดูแลพื้นที่ต่างๆซึ่งพื้นสมาชิกค่อนข้างหวงห้ามและได้มีการตกลงร่วมกันแล้ว

เมื่อถามว่าได้ข้อมูลพฤติกรรมมาได้อย่างไร เลขาสภาฯ กล่าวว่า ทางสำนักรักษาความปลอดภัยฯ ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลที่สำนักรักษาความปลอดภัย และตรวจสอบในเบื้องต้น จึงเสนอรายงานมา

เมื่อถามต่อว่าตัวสส.เองได้มาร้องเรียนหรือไม่ เลขาฯสภาฯ กล่าวว่า ไม่ได้มาร้องเรียน แต่ไม่แน่ใจว่าสำนักรักษาความปลอดภัยฯ เชิญตัวสส. มาหรือไม่ ทราบว่าท่านได้มาให้ข้อมูลกับสำนักรักษาความปลอดภัยฯแล้ว

เมื่อถามย้ำว่า เรื่องดังกล่าวสส.ได้มาร้องเรียนเองตั้งแต่ต้นหรือไม่ เลขาฯสภาฯ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ ทราบเพียงว่ามีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นและมีภาพถ่าย กรณีนี้ต้องไปถามสำนักรักษาความปลอดภัย ที่เป็นต้นเรื่อง น่าจะได้ข้อมูล

เมื่อถามว่า การเดินข้ามโซนที่ไม่ใช่โซนที่แม่บ้านรับผิดชอบถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงเลยหรือ เลขาฯสภาฯ กล่าวว่า การข้ามโซนและมาถ่ายภาพในโซนที่ตัวเองไม่ได้ดูแล และเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ถ้าไม่บันทึกภาพก็อาจจะไม่ถึงขั้นร้ายแรง และทราบว่าอาจจะเกิดจากการเข้าใจผิด ซึ่งเจตนาเขาไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่จะฝ่าฝืนในลักษณะนี้ แต่มาตรฐานไม่น่าจะให้เขาออก แต่น่าจะเปิดโอกาสให้ไปอยู่หน่วยงานอื่นและสร้างสภาพบังคับว่า ถ้ามีการฝ่าฝืนในลักษณะแบบนี้ สำนักงานฯควรมีข้อเสนอต่อบริษัทที่ดูแลอยู่อย่างไรบ้าง

เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวมีการสอบสวนไปถึงบุคคลที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ เลขาสภาฯ กล่าวว่า ปกติทางสำนักงานฯจะดูเฉพาะเบื้องหลัง ไม่แน่ใจว่าจะมีกระบวนการต่างๆที่จะตรวจสอบหรือพิจารณาได้

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าแม่บ้านถูกหลอกใช้จากพรรคการเมืองที่อยู่ฝั่งตรงข้าม จะต้องมีการตรวจสอบหรือไม่  เลขาฯสภาฯ กล่าวว่า ทางสำนักงานจะไม่ก้าวล่วงไปลึกขนาดนั้น หากเป็นเกี่ยวข้องกับประเด็นการเมือง