‘เพื่อไทย’ ผนึก ‘ภาคประชาชน’ สานฝันสมรสเท่าเทียม รวมพลังสู่การเปลี่ยนแปลงในสภา ผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมให้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร

วันที่ 19 ธันวาคม 2566 นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ร่วมเสวนาในหัวข้อ ‘สานฝันสมรสเท่าเทียม : รวมพลังสู่การเปลี่ยนแปลงในสภา’ จัดโดยเครือข่าย สานฝันสมรสเท่าเทียม รวมพลังสู่การเปลี่ยนแปลงในสภา ที่ลานกิจกรรมหน้าด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร โดยมี นางสาวชุมาพร (วาดดาว) แต่งเกลี้ยง นักกิจกรรมเพื่อความหลากหลายทางเพศ นางสาวนรีลักษณ์ แพไชยภูมิ ผู้อำนวยการกองสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม และ นางสาวนัยนา สุภาพึ่ง ที่ปรึกษามูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ ร่วมการเสวนา

นายอัครนันท์ กล่าวว่ากฏหมายสมรสเท่าเทียมนั้น เคยมีการผลักดันตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ซึ่งต่อมารัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่นำโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีการผลักดันอีกครั้ง แต่ก็เกิดการรัฐประหาร 2557 เสียก่อน จนถึงสมัยนี้ที่มีนายกรัฐมนตรี ชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน และมีหัวหน้าพรรคเพื่อไทยชื่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เราจึงมั่้นใจว่ากฎหมายนี้จะเป็นจริงได้

นายอัครนันท์ กล่าวว่า ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาในครั้งนี้ได้มีการปรับเนื้อหาให้เข้ากับสถานการณ์โลกปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ชาว LGBTQIA+ ที่รักกัน แต่ความรักถูกข้อจำกัดทางกฎหมายขีดให้เขาเป็นคนที่กฏหมายและสวัสดิการรัฐเข้าไม่ถึง ซึ่งพรรคเพื่อไทยมองว่า ถึงเวลาที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมต้องเกิดขึ้น เพราะโลกของ LGBTQIA+ คือโลกของเสรีภาพ  และถ้าเราในฐานะ สส. และพรรคการเมืองไม่ทำเรื่องนี้แล้วใครจะเป็นคนทำ เพราะเราคือความหวังของประชาชน ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ กฎหมายฉบับนี้จะผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในขั้นรับหลักการไปสู่การตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณา และพวกเราที่นั่งอยู่นี้จะไปร่วมกันเป็นกรรมาธิการ  ก่อนจะผลักดันไปสู่การพิจารณาในวาระ 3 ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี หลังจากนั้นจะไปถึงขั้นตอนของวุฒิสภา ซึ่งเชื่อว่าเราจะได้เห็นกฎหมายนี้บังคับใช้ได้จริงอย่างแน่นอน

“นี่คือหน้าประวัติศาสตร์ที่เราจะมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม เป็นกฎหมายที่ทำให้ทุกคนมีความสุข ผมในฐานะนักการเมืองก็ต้องการที่จะผลักดันกฎหมายนี้ให้เกิดขึ้นจริง และเชื่อว่าในไม่ช้า ทุกคนจะได้สมรสกันอย่างเท่าเทียมและถูกต้องตามกฎหมาย” สส.พรรคเพื่อไทย กล่าว

นางสาวชุมาพร แต่งเกลี้ยง กล่าวว่า 12 ปีก่อน มีความพยายามทำงานร่วมกันกับกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและคณะกรรมาธิการในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่ยุติไปหลังเกิดรัฐประหาร จากนั้นมีงานวิจัยทางวิชาการได้เสนอว่าเราต้องได้รับการคุ้มครองเสมอหน้าตามกฎหมาย จึงมีการออกแถลงการณ์ฉบับแรกว่าต้องการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในปี 2559 และในปี 2561 เราจัดทำข้อเสนอซึ่งมี 10 พรรคมารับรวมถึงพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมาเรารอคอยกฎหมายฉบับนี้เพื่อสร้างให้เกิดความเท่าเทียม ดังนั้นจึงอยากผลักดันให้ออกมาบังคับใช้ได้จริงโดยเร็วที่สุด เมื่อถึงเดือนไพรด์ในปี 2567 เราจะได้มีการเฉลิมฉลองอีกครั้ง

นางสาวนรีลักษณ์ แพไชยภูมิ กล่าวว่า เป้าหมายของกระทรวงยุติธรรมคือสมรสเท่าเทียม ซึ่งต้องชื่นชมทุกภาคส่วนที่ร่วมกันผลักดันกฎหมายฉบับนี้ และเชื่อมั่นว่าจากการสนับสนุนของนายกรัฐมนตรี มีส่วนช่วยให้เราไม่ต้องก้าวที่ละก้าว เพราะในตอนนี้ทุกคนเห็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงขอให้คอยติดตามการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร มั่นใจอย่างยิ่งว่ากฎหมายฉบับนี้จะผ่านจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน และการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของเรา

นางสาวนัยนา สุภาพึ่ง กล่าวว่า หากร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมฉบับนี้ผ่านการพิจารณาออกมาบังคับใช้ สิ่งที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง และกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศทุกคนจะมีความสุขสมกับชื่องานที่ตั้งไว้ในวันนี้ว่า ‘Love wins’ คือความรักชนะทุกสิ่ง ก่อนหน้านี้มีการบอกว่าการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มันยาก ทำไม่ได้ แต่พอเราใช้ความรัก ความรักชนะทุกสิ่ง ความเท่าเทียมเกิดขึ้นไวเท่าใด ความสุขจะเกิดขึ้นไวเท่านั้น