สืบคลองตันร่วมสืบพระโขนง รวบทันควัน 2 โจรตระเวนขี่จยย.ชักมีดจี้-ทำร้ายชิงทรัพย์วันเดียว 4 รายรวด
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 18 ธ.ค. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ประดับไทย ผกก.สน.พระโขนง นำฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน และสน.พระโขนง จับกุมนายศักรินทร์ หรือซอล ศรีมนตรี อายุ 20 ปี (คนขับ จยย.) ได้ที่ตึกรีเจ้นท์คอนโด ชั้น6 ห้อง150 ภายในซอยอ่อนนุช 17 แยก18 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. และนายปริญญา หรืออี๊ด ทองดีนอก อายุ 21 ปี (คนซ้อนท้าย จยย.และใช้มีดทำร้ายผู้เสียหาย) ได้ที่ห้องเช่าภายในซอยพัฒนาการ 20 แยก 2 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. พร้อมของกลาง เสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะก่อเหตุของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ,โทรศัพท์มือถือ ซัมซุง ของผู้เสียหาย , กระเป๋าสีแดง ของผู้เสียหาย ,พระเครื่องของผู้เสียหาย ,อาวุธมีด ที่ใช้ลงมือก่อเหตุ ,รถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีน้ำเงินเทา ทะเบียน 6กค 2684 กทม. คันที่ใช้ก่อเหตุ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.66 เวลาประมาณ 06.20 น. ตำรวจ สน.พระโขนง รับแจ้งมีเหตุชิงทรัพย์ โดยใช้อาวุธมีด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าโรงงานขนมปังไทยเกอร์ เวลธ ภายในซอย สุขุมวิท 81 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม. ฝ่ายสืบสวนจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุ มีสองคนเป็นชายสวมแมส สวมหมวกนิรภิย สีดำทั้งสองคน ใช้ จยย. ก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายเพื่อชิงทรัพย์ ผู้บาดเจ็บ นายบี วิเชียรบุตร อายุ 30 ปี ผู้เสียหาย ถูกผู้ต้องหาวิ่งมาจากด้านหลังและใช้มีดฟันที่หลังผู้เสียหายแต่ไม่เข้า และพยายามจะชิงโทรศัพท์มือถือยี่ห้อออปโป้ในมือของผู้เสียหาย แต่ไม่สามารถชิงไปได้ จากนั้นผู้เสียหายวิ่งหลบหนีไปได้
จากนั้น เวลาประมาณ 06.33 น.ซอยเดียวกับจุดเกิดเหตุ ได้มีผู้เสียหายรายที่ 2 คือ นายศุกร์สมพร ทากุล ถูกผู้ต้องหา วิ่งมาทางด้านหลังและใช้ด้ามมีดตีศีรษะผู้เสียหายหลายครั้งจนศีรษะแตก โดยผู้ต้องหาพยายามชิงโทรศัพท์มือถือยี่ห้อเรดมี่ และกระเป๋าสะพายสีดำที่ผู้เสียหายสะพายอยู่ แต่ไม่ได้ไป โดยผู้เสียหายวิ่งหลบหนีไปได้ ทางผู้ต้องหาจึงวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่มีผู้ต้องหาอีกราย เป็นผู้ขับขี่จอดรออยู่ใกล้ๆ ก่อนทั้งคู่หลบหนีไป ส่วนผู้บาดเจ็บได้มีพลเมืองดี นำตัวผู้เสียหายส่ง รพ.วิภาราม
ฝ่ายสืบสวนจึงตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายหลบหนีเข้าเขตพื้นที่ สน.คลองตัน ซอยอ่อนนุช 17 แยก18 ตึกรีเจ้นท์ ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน และนำข้อมูลสืบสวน จาก สน.คลองตัน จนทราบตัวคนร้ายและยานพาหนะ จยย. ซึ่งตรงกับที่ก่อเหตุในพื้นที่ สน.คลองตัน ก่อนหน้านี้จึงได้ร่วมกันตรวจสอบพบบุคคลต้องสงสัยที่ก่อเหตุมาพักอยู่ที่ตึกรีเจ้นท์คอนโด ชั้น6 ห้อง 150 ภายในซอยอ่อนนุช 17 แยก18 กระทั่งพบตัวนายศักรินทร์ ศรีมนตรี หรือ ซอล อยู่ภายในห้อง มีตำหนิรูปพรรณตรงกับผู้ก่อเหตุจึงได้สอบถาม โดยรับว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยร่วมกับนายปริญญา ทองดีนอก พักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าภายในซอยพัฒนาการ 20 แยก 2 ก่อนพาไปยังห้องพักของ นายปริญญาฯ
ต่อมาเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตรวจสอบที่ห้อง ชั้น 3 ห้องที่ 303 ตึกเทศทองแมนชั่น พบนายปริญญา โดยรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง นอกจากนี้ยังตรวจยึดอาวุธมีดพร้อมกับอุปกรณ์และรถ จยย. ที่ใช้ในการก่อเหตุจากการสอบถามโดยละเอียดทราบว่าก่อนที่จะมาก่อเหตุในพื่นที่ สน.พระโขนง ได้ก่อเหตุที่พื้นที่ สน.คลองตันมาก่อนหน้านี้ จึงได้นำตัวทั้ง 2 ไปขยายผลที่ สน.คลองตัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันเดียวกัน ประมาณ 04.14 น. คนร้ายได้ไปก่อเหตุในท้องที่สน.คลองตัน โดยรับแจ้งว่ามีชายไทย จำนวน 2 คน ขับขี่รถ จยย. โดยคนซ้อน ลงมือก่อเหตุแย่งกระเป๋าของ นางวิไล ชัยรัตนภูมิ ผู้เสียหาย เป็นแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว แต่ผู้เสียหายไม่ยินยอม และถูกคนร้ายชกต่อยไปที่ใบหน้าของผู้เสียหาย แล้วจึงหลบหนีไป โดยไม่ได้ทรัพย์สินไป เหตุเกิดบริเวณ โรงภาพยนต์ พระโขนงรามา เยื้องซอยปรีดีพนมยงค์ 1 ถ.สุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
จากนั้นเวลาประมาณ 05.55 น. ผู้ต้องหาได้ขับขี่รถ จยย. มาถึงบริเวณปรีดีพนมยงค์ 8 แยก 2 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ แล้วคนซ้อนลงมาทุบหลังและผลัก น.ส.ลดาวัลย์ โฉมโสภา ผู้เสียหาย เป็นแม่บ้าน ประจำธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเอกมัย ถูกคนร้ายกระชากกระเป๋า ก่อนหลบหนีไป ซึ่งภายในกระเป๋ามีทรัพย์สิน อาทิ โทรศัพท์ ซัมซุง รุ่น เจ7 ,เงินสด ,พระเครื่อง และกระเป๋าสีแดง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวแจ้งข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยร่วมกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ แต่ปฏิเสธรับของโจร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ส่วนคดีของ สน.พระโขนง พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อกล่าวหาและขอฝากขังต่อศาลอาญาพระโขนงต่อไป
