สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผลการวิเคราะห์ของกลุ่มผู้นำธุรกิจ 750 ราย ที่ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ จากบริษัทเรซูเม่บิลเดอร์ เปิดเผยว่า ระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ได้เข้ามาแทนที่พนักงานตามบริษัทต่างๆ ในปี 2022 (พ.ศ. 2566) คิดเป็นร้อยละ 37
พร้อมกันนี้ ผลการวิเคราะห์ดังกล่าว ยังระบุด้วยว่า ในปี 2024 (พ.ศ. 2567) สถานการณ์ของพนักงานจะเลวร้ายกว่าในปีนี้ โดยจะถูกเอไอเข้ามาแทนที่มากถึงร้อยละ 44 ด้วยกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ผลการวิเคราะห์ข้างต้น สอดคล้องกับทรรศนะของนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวสหรัฐฯ เจ้าของบริษัทเทสลา, สเปซเอ็กซ์ เอ็กซ์ เอ็กซ์เอไอ ที่เคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ระบบเอไออาจทำให้ทุกคนต้องตกงานในที่สุด
อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์ ไม่เห็นด้วยกับทรรศนะของนายมัสก์ข้างต้น โดยยังเห็นว่า หน่วยงาน หรือองค์กรที่ยังบริหารงานแบบดั้งเดิมและธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเหมือนกับบริษัท หรือองค์กรใหญ่ๆ ยังคงใช้พนักงานมนุษย์อยุ่ต่อไป แม้ว่าเทคโนโลยีชั้นสูง หรือเอไอ จะช่วยให้พวกเขาสามารถปรับโครงสร้าง และนิยามงานที่ทำขึ้นใหม่ได้
ทางด้าน บริษัทอาซานา เปิดเผยผลสำรวจว่า พนักงานจำนวนร้อยละ 29 เห็นว่า เอไอสามารถทำงานแทนพวเขาได้ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทอาซานา ก็แสดงทรรศนะในท้ายผลสำรวจว่า ไม่เห็นด้วยที่จะให้หน่วยงาน องค์กรต่างๆ ใช้เอไอแทนพนักงานมนุษย์อย่างสิ้นเชิง แต่ควรใช้เอไอทีเน้นให้มนุษย์เป็นศูนย์กลาง