'เบนซ์ เรซซิ่ง' เผยความในใจที่ไม่เคยบอกใครเหตุผลของการเลิกกับแพท พร้อมยอมรับเราสามคนก็ตัดกันไม่ขาดด้วยความเป็นพ่อแม่ลูก
เมื่อ เบนซ์ เรซซิ่ง ได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เปิดเรื่องราวในชีวิตพร้อมเผยความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจเพราะอุ่นใจที่ได้มานั่งคุยมานั่งเล่าที่นี่เป็นที่แรก กับความในใจที่ไม่เคยบอกใครเหตุผลของการเลิกกับแพท พร้อมยอมรับเราสามคนก็ตัดกันไม่ขาดด้วยความเป็นพ่อแม่ลูก
มันมีอันหนึ่งที่ตอนที่พวกเราเห็นข้อความอันนี้ก็ค่อนข้างจะตกใจที่ คุณเบนซ์ เองมีเรื่องหนึ่งที่ไม่เคยพูด ไม่เคยบอก แม้แต่ คุณแพท เองก็ยังไม่เคยรู้
เบนซ์ เรซซิ่ง : ใช่ครับ ที่เลือกที่จะบอกในวันนี้ก็เพราะว่าผมคิดว่าในวันนี้เหตุการณ์และปัญหาทั้งหมดมันจบสิ้นลงแลล้วทุกอย่างมันคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีก็เลยอยากจะกลับมาย้อนถึงในวันนั้นที่เราตัดสินใจที่จะถอยออกมาในความสัมพันธ์
ณ วันนั้นมันคือช่วงไหนหลังจากที่เราถอยออกมาจากความสัมพันธ์
เบนซ์ เรซซิ่ง : หลังจากที่ผมเข้าไปอยู่ในเรือนจำช่วงศาลชั้นต้นที่ 1 ปี 3 เดือนแล้วก็ได้ประกันตัวออกมาคือมันเป็นเหมือนช่วงเวลาสุญญากาศในระหว่างสู้อุทธรณ์ว่าเราจะต้องเข้าไปข้างในอีกไหมหรือว่าเราจะจบคดีในชั้นนี้ มันทำให้เราคิดทบทวนหลายสิ่งหลายอย่างอย่างมากมาย
สถานการณ์ของ คุณแพท กับ คุณเบนซ์ ในตอนนั้นคืออะไรที่เราเข้าไป 1 ปีกับ 3 เดือนแล้วออกมาตอนนั้นชีวิตคู่อยู่ในสถานะไหน
เบนซ์ เรซซิ่ง : ตอนที่เข้าไปรอบแรกครับ ทางคุณแพทถ้าว่างเขาก็จะมาเยี่ยมตลอดแต่ก็ไม่ได้ให้พาน้องมาครับ เขาก็มาเยี่ยมมาอะไรความสัมพันธ์ก็ค่อนข้างปกติครับ จนพอออกมาแล้วด้วยความที่มันห่างหายกันไปนานเขาก็พยายามจะคุยกับเราว่าโอเค … หลังจากนี้สถานะเราจะเป็นอย่างไรต่อไป เราจะเป็นสามีภรรยาหรือเราจะเป็นเพียงพ่อแม่ลูกหลายๆทางมาก็กดดัน แต่จริงๆแล้วผมก็ยังมีโจทย์ในใจว่าในคดีผมมันก็ยังไม่จบสิ้นผมก็ยังไม่สามารถที่จะรับปากอะไรได้ ผมจะไปลงทุนทำธุรกิจอะไรผมก็ยังไม่สามารถที่จะทำได้มันมีปัญหาหลายๆอย่างเข้ามาจนสุดท้ายแล้วผมรู้แล้วว่าปัญหาช่วงที่เราเข้าไปติดรอบแรกทำให้เราอยู่ยากหรือทุกข์ใจ ก็คือปัญหาเรื่องของทางครอบครัวทางภรรยาและลูกผมก็เลยมานั่งคิดทบทวนให้เยอะว่า ในวันนี้มันยังไม่จบสิ้นเราจะเลือกอย่างไรต่อว่าจะเป็นสามีภรรยาหรือเป็นพ่อแม่ลูก
อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับความรู้สึกรักหรือไม่รักแล้วด้วย แต่มันคือในวันนั้นกล้าพูดเลยใช่ไหมเอ่ยว่าเรารัก
เบนซ์ เรซซิ่ง : ใช่ครับ
แต่ตัดสินใจที่จะถอยออกมาจากคามสัมพันธ์เพราะว่า
เบนซ์ เรซซิ่ง : จนสุดท้ายแล้วผมคิดว่าผมเองยังมีโอกาสที่จะต้องกลับไปอยู่ในเรือนจำอยู่ ถ้าหากว่าคำพิพากษามาว่าผมแพ้เพราะต้องศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตัดสินไปแล้ว 8 ปี ผมมี 8 ปีอยู่ในมืออยู่แล้วว่าถ้าเราแพ้เราจะต้องเข้าไปติดผมก็เลยคิดว่าถ้าหากผมจะต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำจริงๆผมไม่รู้ว่าผมจะต้องติดกี่ปี ผมไม่อยากจะให้เข้าติดไปกับผมด้วยคือถ้าเราเข้าไปติดข้างในเขาก็ต้องมานั่งทุกข์ว่าเราจะอยู่ได้ไหม เราจะกินได้ไหม เราจะนอนได้ไหมเขาก็จะเป็นทุกข์ไปกับเราด้วยและอีกอย่างหนึ่งก็คือผมต้องการให้เขาได้เดินหน้าต่อไป คือผมไม่สามารถที่จะการันตีได้ว่าผมต้องอยู่ข้างใน 1 ปี 5 ปี 10 ปี ถ้าเกิดว่าเขาสามารถรอได้จริง แต่ว่าผมเองอยากให้เขาได้ก้าวเดินต่อไปเพราะในช่วงเวลาที่ผมอยู่ข้างใน ผมไม่สามารถที่จะทำหน้าที่ใดๆได้เลยไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ของพ่อ และหน้าที่ของสามีถ้าเกิดวันนั้นเรายังคงสถานะการเป็นสามีภรรยากันอยู่ แล้วช่วงเวลาหนึ่งมันห่างหายกันไปผมไม่สามารถเข้าไปเติมเต็มเข้าไปดูแลให้ความสุขเข้าได้ แล้วถ้ากลายเป็นเขาไปมีข่าวว่าเขาไปคุยกับใครทางสังคมก็ต้องโจมตีเขาว่าผมอยู่ในเรือนจำทำไมคุณไปคุยกับคนอื่นเพราะฉะนั้นผมตัดสินใจว่าผมขอถอยออกมา แล้วให้เขาได้เดินหน้าต่อไป เพื่อที่จะได้มีความสุขเข้ามาเติมเต็มเขาในระหว่างที่ผมไม่อยู่
อันนี้คือเราคิดแบบนี้เอง โดยที่เราไม่ได้คุยกับเขาหรือบอกกับเขาเลย
เบนซ์ เรซซิ่ง : ใช่ครับ ผมไม่เคยบอกใครเลย
เบนซ์ เรซซิ่ง : ตลอดเวลาที่ผ่านมามันผ่านเหตุการณ์อะไรมามากมาย ทำให้สถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนแปลงไป แต่สุดท้ายแล้วเราสามคนก็ตัดกันไม่ขาดด้วยความเป็นพ่อแม่ลูก ผมว่าก็คงจะไม่ได้แตกต่างอะไรกันเพียงแต่ว่าตอนนี้เราก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของเราแล้วถึงเวลาเราก็มาเป็นพ่อแม่ลูกเติมเวลาเติมเต็มให้กันแบบนี้
ทุกวันนี้เราน่าจะสัมผัสได้ว่าทั้งคู่ทั้งคุณเบนซ์และคุณแพทเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน
เบนซ์ เรซซิ่ง : ใช่ครับ
สามารถชมคลิป ย้อนหลัง ได้ในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 ทางยูทูป :
https://youtu.be/eaD99RSGFnY?si=HqTOhmkrd-a8kM9o , https://youtu.be/8BsqElcEtuA?si=X5pdTxRIYQf5uzBP