บิ๊กหลวงตรวจจุดเกิดเหตุ บ.ปางมะหัน เชียงราย หลังเจ้าหน้าที่ปะทะเดือดแก๊งขนยาเสพติดข้ามแดนไทย-เมียนมา พบ 15 ศพ ตรวจยึดยาบ้า กว่า 2 ล้านเม็ด พร้อมให้กำลังใจทหารตามแนวชายแดน
วันที่ 17 ธันวาคม 2566 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน เลขาธิการ ป.ป.ส. ลงพื้นที่ติดตามกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ผ่านช่องทางม้งเก้าหลัง เข้าสู่พื้นที่ตอนใน บริเวณ บ.ปางมะหัน ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง หลังทหารกองกำลังผาเมือง ยิงปะทะกับกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด บริเวณกลางป่าแนวชายแดนไทย-เมียนมา วิสามัญแก๊งค้ายา 15 ศพ ยึดยาบ้า 2 ล้านเม็ด
.
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้น วันที่ 16 ธ.ค. 66 หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ หรือ Taskforce 35 ได้ทราบข่าวว่ามีกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่จะลำเลียงยาเสพติดผ่านช่องทางม้งเก้าหลัง เข้าสู่พื้นที่ตอนใน บริเวณ บ.ปางมะหัน ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ชุดเคลื่อนที่เร็ว ฉก.ทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง ร่วมกับกองร้อยทหารม้าที่ 1 จึงได้จัดกำลังพล ทำการเฝ้าตรวจ จนเวลา 19.00 น. พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย ประมาณ 20 คนแบกเป้สัมภาระเข้ามายังพื้นที่เฝ้าตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่ จึงเกิดการปะทะกัน ประมาณ 5 นาที ผลการปะทะ เจ้าหน้าที่ไทยปลอดภัย และได้ตรึงกำลังควบคุมพื้นที่โดยรอบบริเวณจุดปะทะ เบื้องต้นพบว่า คาราวานยาเสพติดเสียชีวิตในจุดปะทะ 15 คน กระสอบปุ๋ยดัดแปลงเป็นเป้สะพายหลัง 17 เป้ ภายในบรรจุยาบ้า เป้ละ 120,000 เม็ด รวม 2,040,000 เม็ด
.
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ต้องการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดในทุกมิติ และได้กำหนด พื้นที่เร่งด่วนตามมาตรา 5 (10) ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ประกาศเขตควบคุมและสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ พร้อมจัดตั้ง หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ หรือ Taskforce 35 ซึ่งเป็นการร่วมมือกันของหลายฝ่าย และมอบหมายให้ พลโทนฤทธิ์ ถาวรวงษ์ แม่ทัพน้อยที่ 3 เป็นผู้สั่งการ เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดทางพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ ที่ยาบ้ามากกว่าร้อยละ 50 ถูกนำเข้าผ่านเส้นทางนี้
.
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวอีกว่า ตนเมื่อทราบข่าวเหตุปะทะได้เดินทางมาทันที เพื่อแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เพื่อช่วยสกัดกั้นไม่ให้สิ่งเลวร้ายเหล่านี้เข้าไปในประเทศเรา ไปทำลายเยาวชนไปทำลายลูกหลานของเรา พี่จะเป็นกำลังของชาติบ้านเมืองต่อไป ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนเช่นนี้เป็นงานที่ลำบากตลอดระยะทางที่ตนได้เดินเข้ามายังจุดเกิดเหตุรู้เลยว่าไม่ใช่งานที่ง่ายในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เช่นนี้ รวมถึงเป็นหน้าที่ที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งต้องขอขอบคุณในความเสียสละและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ครับ
----