วันที่ 16 ธ.ค.66 ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ "ดร.นิว" นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas โพสต์เฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan ระบุข้อความว่า...
ลอกคราบนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์
ได้ฟังนายสุลักษณ์พูดเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม ม.112 รู้เลยว่ารู้ไม่จริง เพราะปัญหามันไม่ใช่การวิจารณ์โดยสุจริต หากแต่เต็มไปด้วยการหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายละเมิดสิทธิเสรีภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน โดยนายสุลักษณ์ยังตื้นเขินมากในหลายประเด็น รู้แบบงูๆ ปลาๆ เท่านั้น
หนึ่ง อัตราโทษ 3-15 ปี มีไว้เพื่อให้ครอบคลุมลักษณะพฤติการณ์ของการอาฆาตมาดร้าย ไม่ใช่ว่าลงโทษ 15 ปี เสียหมด ถ้าเป็นการหมิ่นประมาททั่วไปไม่ได้ร้ายแรงมากก็มีโทษขั้นต่ำ 3 ปี เท่านั้น
สอง ตำรวจก็ไม่ได้จับทันทีตามที่นายสุลักษณ์กล่าวในกะลา เพราะนายปิยบุตรเองก็เป็นผู้ต้องหา ม.112 แต่ก็ไม่ได้โดนจับแต่ประการใด และปัจจุบันก็มีคณะกรรมการของตำรวจในการกลั่นกรองอยู่แล้ว ไม่ใช่จะดำเนินคดีกันได้ง่ายๆ
สาม การเสนอให้สำนักพระราชวังมาเกี่ยวข้องในลักษณะของผู้ฟ้อง นับว่าไม่แยบคาย จะกลายเป็นการดึงมาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งโดยไม่จำเป็น ที่เป็นอยู่ก็ดีอยู่แล้ว เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการปกป้องพระประมุข
สี่ ม.112 ไม่ใช่คดีการเมือง หากแต่เป็นคดีความมั่นคง ซึ่งละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของพระประมุข แล้วก็อย่ามาอ้างความเป็นธรรม ที่พระมหากษัตริย์ถูกหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายนั้นเป็นธรรมหรือ?
ห้า การนิรโทษกรรม ม.112 ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง หากแต่เป็นการบิดเบือน เป็นไปเพื่อประโยชน์ของกลุ่มคนที่คิดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น ประชาชนปกติทั่วไปไม่มีใครเดือดร้อนเพราะ ม.112
หก นายสุลักษณ์อายุ 90 ปี แล้ว แต่ยังไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี นำการมีลูกของทนายสามนิ้วมาฟอกขาวจากผู้กระทำผิดให้กลายเป็นผู้บริสุทธิ์ ทั้งๆ ที่การมีลูกกับการทำความผิดเป็นคนละเรื่องกัน การมีลูกสามารถเปลี่ยนสถานะ "ผู้กระทำผิด" เป็น "ผู้บริสุทธิ์" ได้หรือ?
จึงต้องถามกลับไปว่านายสุลักษณ์ถือพุทธจริงๆ หรือ? ทำไมถึงมีปัญญาคิดได้เท่านี้? ทนายสามนิ้วเป็น "ผู้กระทำ" ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น เขาต่างหากที่เป็นผู้ก่อกรรมซึ่งเป็นเหตุให้เขาต้องห่างจากลูกของตน แบบนี้นายสุลักษณ์เป็นผู้ทุจริตทางวาจาที่เขาบอกว่าเลวร้ายที่สุดเสียเองหรือไม่?
เสียแรงที่เคยอ่านหนังสือของนายสุลักษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือธรรมะที่เขาแปล เพราะว่าเขาไม่ได้มีธรรมะอะไรเลย กลับเต็มไปความยึดมั่นถือมั่นในมิจฉาทิฏฐิ ข้ามไม่พ้นอัตตาของตน ยิ่งแก่ยิ่งหลงยิ่งเพิ่มพูนด้วยอัตตา อายุก็แก่ปูนนี้น่าจะหาความดีทำให้กับตัวเองบ้าง
ถ้ายี่ห้อ "ปัญญาชนสยาม" ไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อหลอกเด็ก ก็มาดีเบตพิสูจน์กันได้ครับ
ดร.ศุภณัฐ
16 ธันวาคม พ.ศ. 2566
#ประชาธิปไตยTheseries by ดร.ศุภณัฐ