วันที่ 26 ธ.ค. 2566 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี เหตุการณ์สภาฯล่ม เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ระหว่างการลงมติพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร จนต้องสั่งปิดประชุมโดยมีผู้ลงมติ 228 คน ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสมาชิกที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ ว่า สมาชิกพรรคก้าวไกล เคยกล่าวไว้เองว่าสภาล่ม 1 ครั้ง มูลค่าความเสียหายประมาณ 8,291,945 บาท ทำประเทศชาติเสียหาย ทำประชาชนเสียโอกาส เหตุการณ์สภาฯล่ม เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.นั้น ในขั้นตอนการแสดงตนเป็นองค์ประชุมก่อนลงมติร่างข้อบังคับดังกล่าว มี สส.พรรคก้าวไกลแสดงตน 92 คน ไม่แสดงตน 56 คน แต่พอถึงขั้นตอนการลงมติที่ห่างจากขั้นตอนแสดงตนเป็นองค์ประชุมแค่ 2 นาที พบว่าเหลือสส.พรรคก้าวไกลลงมติแค่ 2 คน จาก 92 คนที่แสดงตน 

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า คำถามคือ ถ้าเป็นสส.พรรคอื่น อยู่ในห้องประชุมสภาแล้วไม่แสดงตน หรืออยู่แสดงตนในห้องประชุมสภาแต่ไม่ลงมติ คงโดนสารพัดแฮชแท็กปั่นขึ้นมาจากกองเชียร์บางฝ่ายว่า #กูสั่งให้มึงแสดงตน #กูสั่งให้มึงลงมติ #ไม่อยากลงมติลาออกไป แต่พอเป็นพรรคก้าวไกลทำ คนกลุ่มนี้กลับยกย่อง การขอนับองค์ประชุมพร่ำเพรื่อ การอยู่ในห้องประชุมสภาแต่ไม่แสดงตน หรืออยู่แสดงตนแต่ไม่ลงมติ เจตนาชัดว่าต้องการทำให้สภาล่มหรือไม่ ตกลงที่เคยบอกว่า สภาล่ม 1 ครั้ง สูญเงิน 8,291,945 บาท ถ้าฝ่ายตัวเองเป็นคนทำสภาล่มเสียเอง ไม่เป็นไรแล้วหรือ เสียหายเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไรหรือ ตนเชื่อว่าจากนี้สส.รัฐบาลต้องการ์ดสูง ตั้งตนอยู่ในความพร้อมขั้นสูงสุดตลอดเวลา

“การทำสภาล่ม อาจเป็นเรื่องสะใจของบางคน บางพรรค ที่ทำให้สภาล่มได้ แต่ถ้าเราดึงสติแล้วถอยกลับออกมา ยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ไม่มีใครได้ประโยชน์ มีแต่เสียโอกาส” นายอนุสรณ์ กล่าว