วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยถึงการขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ของข้าราชเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด อดีตรองนายก อบต.เมืองแหง จ.เชียงใหม่ โดยหน่วย นบ.ยส.35 หรือ หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ ได้ร่วมมือกับตำรวจจังหวัดสุพรรณบุรี ขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ 1 ราย ในพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสั่งการนำเข้ายาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ตอนใน



พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 1 ปี และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กำหนดปฏิบัติการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด Quick Win โดยมีการกำหนดพื้นที่จำเป็นเร่งด่วน ในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญบริเวณชายแดนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ จัดตั้งหน่วยบัญชาการ “หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปราม ยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ” เรียกชื่อย่อว่า “นบ.ยส.35” เป็นกลไกหลักในการแก้ไขปัญหา นอกจากนั้นได้เน้นย้ำให้เข้มงวดปราบปรามผู้มีอิทธิพล ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้หมดจากสังคมไทย



สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 เจ้าหน้าที่ทหาร ศป.บส.ชน. จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ไอซ์ 1 กก., เคตามีน 20 กก.ในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงราย ต่อมาได้ทำการสืบสวนขยายผลออกหมายจับ รองนายก อบต.เมืองแหง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ (ในขณะนั้น)และภรรยา ซึ่งมีบทบาทในการประสานนำยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านและจัดทำทีมลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอน และได้ทำการจับกุมเมื่อวันที่ 4 เม.ย.65 ในพื้นที่ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ตรวจยึดอายัดทรัพย์สินประมาณ 20 ล้านบาท และในคดีดังกล่าวศาลได้พิพากษาจำคุกอดีตรองนายก อบต.เมืองแหง ตลอดชีวิต



หน่วย นบ.ยส.35 ส่วนปราบปรามและขยายผล ได้รวบรวมเครือข่ายการค้าเดิมที่มีความเคลื่อนไหว และคัดเลือกเพื่อมาดำเนินการสืบสวนขยายผลต่อ จนกระทั่งทราบว่าผู้สั่งอยู่ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี โดยจะนำเข้ายาเสพติดมาจากพื้นที่ชายแดน จ.เชียงราย ผ่านการประสานของอดีตรองนายก อบต.เมืองแหง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ

และในวันที่ 15 ธ.ค.66 ปปส.ภ.5 สนธิกำลังตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ สำนักปราบปรามยาเสพติด ปปส.ภ.7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าดำเนินการตรวจค้น 2 เป้าหมาย ในพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ และได้ตรวจยึดทรัพย์สินในครั้งนี้มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท สำหรับเครือข่ายนี้ ได้มีการสืบสวนขยายผลมาแล้ว 3 ครั้ง สามารถ ตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินในเครือข่าย 35 ล้านบาท

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวว่าภาครัฐต้องการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด ซึ่งต้องแก้ไขและสร้างไปพร้อมกัน การแก้ไขปัญหาต้องทำในทุกมิติ พร้อมไปกับการสร้างความเชื่อมั่น สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน ให้สถาบันครอบครัว เพื่อเป็นเกราะป้องกันปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน  หนึ่งในการแก้ไขคือปัญหา ผู้มีอิทธิพล ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด ซึ่งบ่อนทำลายสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งตนประกาศเสมอว่าหากพบเจอข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด ต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัย และทางอาญา อย่างตรงไปตรงมา

สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เพิ่มช่องทางจัดการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐเหล่านี้ผ่านช่องทางการแจ้งเบาะแสข้าราชการเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด  LINE “ข้าราชการค้ายาเสพติด” ID govoff.drugtrade โดยตนขอยืนยันว่าการแจ้งเบาะแสปลอดภัยแน่นอน และท้ายนี้การขยายผลจับกุมในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ หน่วย นบ.ยส.35 ในความตั้งใจปราบปรามขยายผลเครือข่ายอดีตเจ้าหน้าที่รัฐที่ลักลอบนำเข้ายาเสพติดทางภาคเหนือ