นบ.ยส.35 ปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีเร่งด่วนชายแดนเหนือ พ.ศ. 2567
วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ที่ ห้องประชุม สำนักงาน ปปส. ภาค 5 พล.ท.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ แม่ทัพน้อยภาคที่ 3 /ผอ.ศอ.ปส.ชน. ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ พร้อมด้วย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ตร.ภ 5 นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ ผอ.ปปส. ภาค 5 และผู้แทนจังหวัดเชียงราย ร่วมประชุมชี้แจงการขับเคลื่อนงานตามแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ในพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนชายแดนเหนือ พ.ศ. 2567 และประชุมมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติของส่วนสกัดกั้น นบ.ยส.35
ตามประกาศของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 (10) แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ได้กำหนดให้พื้นที่ภาคเหนือ 2 จังหวัด 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่อาย ฝาง เชียงดาว เวียงแหง และไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอแม่จัน แม่ฟ้าหลวง แม่สาย เชียงแสน เชียงของ และเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เป็นพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และจัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) โดยมีแม่ทัพน้อยที่ 3 เป็นผู้บัญชาการ นบ.ยส.35 และ ผอ.ปปส.ภ.5 เป็นเลขานุการการดำเนินการ เพื่อให้การขับเคลื่อนงานของ นบ.ยส.35 เกิดการบูรณาการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมทั้งการกำกับ ติดตาม รายงานผล เพื่อให้เป็นไปตามตัวชี้วัด
พล.ท.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ ได้มอบแนวทางให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ร่วมดำเนินการ ว่า การดำเนินการของ นบ.ยส.35 จะเน้นดำเนินการสกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ตามบริเวณแนวชายแดนทั้ง 11 อำเภอ ของจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เพื่อลดจำนวนยาเสพติดที่จะเข้าสู่ประเทศไทยตอนใน โดยบูรณาการกำลังจากทุกภาคส่วน ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เสริมกำลังปฏิบัติงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มความเข็มแข็งให้กับแนวชายแดน ทั้งนี้ยังจะต้องเพิ่มกำลังในการสกัดกั้นยาเสพติด ตามแนวชายแดนอื่นๆ ขึ้นด้วย
พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. กล่าวว่าการสกัดกั้นตามแนวชายแดนแล้ว จะต้องดำเนินการปราบปรามสืบสวนขยายผลในพื้นที่ชั้นใน เพื่อให้ทราบถึงเส้นทางในการกระจายยาเสพติดไปแหล่งพักยาเสพติดก่อนจะถูกส่งออกไปยังประเทศที่สาม รวมทั้งติดตามจับกุม ผู้ลักลอบขนยาเสพติดที่หลุดรอดจากการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดให้หมดสิ้นไป ตามนโยบายของรัฐบาล