วันที่ 15 ธ.ค. 2566 เวลา 11.00 น. ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการให้เวลารัฐบาลทำงานนานแค่ไหน ก่อนที่จะมีการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป ว่า เรื่องการยื่นอภิปรายตามมาตรา 151 จะรอดูว่า หากพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567  ไม่มีรายละเอียด การยื่นอภิปรายไม่วางใจ น่าจะเป็นเรื่องที่ผู้นำฝ่ายค้าน ก็คงจะยื่นในไตรมาสที่ 1 หรือไตรมาสที่ 2 ขึ้นอยู่กับผลการชี้แจงผ่านพ.ร.บ.งบประมาณที่เข้ามาก่อน โดยจะใช้โอกาสนั้น ในการชำแหละเรื่องของงบประมาณ ว่า ตรงกับสิ่งที่เสนอไว้ในเรื่องวิสัยทัศน์หรือไม่ รวมถึงการตอบคำถามของทางฝ่ายค้าน หากทำได้ไม่ดี ก็คงจะมีการยื่นอภิปรายไม่วางใจ ขณะเดียวกันยังติดตามเรื่องการทุจริตในการใช้งบประมาณ ซึ่งหากมีหลักฐานที่ชัดเจน ก็อาจจะอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ขึ้นอยู่กับการทำงานของรัฐบาลในต้นปีหน้า

นายพิธา ไม่ตอบคำถามกรณีมั่นใจในพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ หลังมีการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ตอบเพียงว่า จะยังคงเป็นฝ่ายค้านร่วมกันว่า มั่นใจในตัวเรา ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหนพรรคก้าวไกลก็ยังเป็นพรรคอันดับ 1 ของประเทศอยู่ดี เป็นพรรคที่มี สส.มากที่สุดอยู่ดี มีประธานกรรมาธิการอยู่หลายคณะ ดังนั้นตั้งใจที่จะทำงานเพื่อประชาชน ไม่ว่าจะผ่านกรรมาธิการ ผ่านสภาฯ ก็เชื่อว่าจะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก และทำงานอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสร้างความสุขให้กับพี่น้องประชาชน

“เรามั่นใจในตัวของเรา และมั่นใจในการทำงานของเรา ก้าวไกลจะทำงานให้เป็นความหวังของพี่น้องประชาชนให้สมกับที่พี่น้องประชาชนให้มา” นายพิธา กล่าว

เมื่อถามว่ามีการมองกันว่า ฝ่ายค้านมัวแต่แก้ปัญหาภายในพรรคไม่ได้ทำงาน นายพิธา กล่าวว่า ในส่วนที่มีปัญหาก็ต้องแก้กันไป แต่สิ่งสำคัญ จะต้องทำงานตามที่สัญญาไว้กับประชาชน โดยเป็นฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่จ้องแต่จะล้มรัฐบาลเพียงอย่างเดียว และจะพยายามพัฒนาบุคลากรของพรรคให้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่