อัยการยื่นฟ้อง สว.อุปกิต 6 ข้อหาหนัก เอี่ยวฟอกเงิน-สมคบค้ายา-อาชญากรรมข้ามชาติ หลัง อสส.มีคำสั่งฟ้องเกี่ยวพันทุน มิน ลัต เจ้าตัวปฏิเสธ พร้อมสู้คดี ศาลนัดตรวจหลักฐานปีหน้า วางเงิน 5 ล้าน ขอประกันตัว
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาฯ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.66 นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงความคืบหน้าคดี นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ผู้ต้องหาคดีเกี่ยวข้องยาเสพติด ว่า วันนี้พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 9 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายอุปกิตเป็นจำเลยต่อศาลอาญาแล้วใน 6 ฐานความผิด 1.เป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันโดยการกระทำมีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป
2.ร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน 3.เป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน 4. เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันฟอกเงิน
5.เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติโดยสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อจะทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ 6.มีส่วนร่วมกระทำการใดๆไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติโดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรง
ศาลอาญาประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาหมายเลขดำที่ ย. 1445/2566 ศาลได้สอบคำให้การจำเลยโดยอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังจนเข้าใจแล้ว สอบถามปรากฏว่านายอุปกิตจำเลยแถลงให้การปฏิเสธต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายวันที่ 13 พ.ค.67 เวลา 09.00 น
นายประยุทธ ยังกล่าวอีกว่า ข้อกล่าวหาที่อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องนายอุปกิตนั้น มีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในชั้นสอบสวนบางข้อกล่าวหา และคงไม่ขอให้มีการรวมสำนวนคดีกับคดีของนายทุนมินลัต นักธุรกิจ ชาวเมียนมา ที่อยู่ในชั้นศาลขณะนี้ เพราะศาลได้ดำเนินกระบวนพิจารณาไปไกล สืบพยานเสร็จสิ้นหมดแล้ว และศาลได้นัดฟังคำพิพากษา คดีของนายทุนมินลัต นักธุรกิจชาวเมียนมา กับพวก ในช่วงเดือนธ.ค.นี้
สำหรับ 6 ข้อหาที่ แจ้งกับนายอุปกิจนั้น เป็นข้อหาที่ตั้งมาตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน และมีบางส่วนที่อัยการสั่งให้ตรวจสอบและแจ้งข้อหาเพิ่มเติม พร้อมยอมรับที่ผ่านมาที่เกิดความล่าช้าเนื่องจากต้องสอบสวนในหลายประเด็น ส่วนผลของคดีทุนมินลัตจะมีผลกระทบต่อคดีนายอุปกิตอย่างไรนั้น จะยกฟ้องหรือตัดสินอย่างไรมองว่ากระบวนการตรงนั้นยังไกลไปที่ตนจะพูดถึงเพราะหากศาลยกฟ้องก็ยังมีกระบวนการอุทธรณ์คดีอีก
สำหรับท้ายคำฟ้องที่อัยการยื่นวันนี้ไม่มีเรื่องของการยึดทรัพย์รวมด้วย เป็นคดีด้านอาญาและคดีด้านยาเสพติดแต่หากสำนักงานปราบปรามยาเสพติดไปยึดทรัพย์ในเครือข่ายของนายอุปกิตก็ต้องทำสำนวนส่งมาให้ที่อัยการสูงสุด ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป รวมทั้งอัยการไม่ได้คัดค้านการประกันตัวนายอุปกิต เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดไว้มิให้คุมขังส.ว.ในสมัยการประชุมสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้นายอุปกิตพร้อมทนายความได้เดินทางมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ ตามนัดของอัยการเพื่อส่งตัวฟ้อง และขั้นตอนยังอยู่ระหว่างการยื่นขอประกันตัวต่อศาล โดยมีรายงานว่านายอุปกิตใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 ล้านบาท และใช้บุคคลในการยื่นขอประกันตัว