“พท.” เตรียมหามาตรการแก้เผ็ด “ก้าวไกล” ทำสภาฯล่ม ยันไม่ใช่เด็กน้อยแต่มีเขี้ยวเล็บ รัฐบาลต้องระวังมากขึ้น
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2566 ที่รัฐสภา นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงเหตุการณ์สภาล่มเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ระหว่างการลงมติร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ดูแล้วเป็นการแก้เผ็ดของพรรคก้าวไกลที่คงไม่พอใจสส.รัฐบาลไม่ลงมติเลื่อนร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมให้พรรคก้าวไกลในวันที่ 13 ธ.ค. จึงมาเอาคืนในการลงมติร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ ทั้งที่ตอนนับองค์ประชุมก็ช่วยแสดงตนให้ แต่ไม่ยอมกดคะแนนตอนลงมติ ถือเป็นบทเรียนที่รัฐบาลจะต้องนำไปแก้ไข ในการประชุมวิปรัฐบาล วันที่ 19 ธ.ค. จะนำเรื่องสภาล่มมาหารือ เพื่อวางมาตรการแก้ปัญหาไม่ให้เกิดเหตุสภาล่มขึ้นมาอีก
เมื่อถามว่ารัฐบาลมีเสียง สส.314 เสียง แต่ยังปล่อยให้สภาฯล่มได้อีกนั้น นายครูมานิตย์ กล่าวว่า อยากให้มองวิกฤติเป็นโอกาส เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่า พรรคก้าวไกลส่งสัญญาณเตือนมาแล้ว เราต้องเตรียมรับมือหลังจากนี้ให้ดี ตอนนี้พรรคก้าวไกลมีเขี้ยวเล็บมากขึ้น ไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไป เขาเรียนรู้การใช้วิชาการเมืองแล้ว ไม่ได้มีแค่หลักวิชาการอย่างเดียว เป็นการเรียนรู้วิชาการเมืองมาจาการแกนนำพรรคเพื่อไทยที่ใช้ในสมัยที่แล้ว ดังนั้นรัฐบาลต้องระวังตัวมากขึ้น ไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก